"ช่างเก้า" ผู้ชายครึ่งท่อน ใจแกร่งสู้ชีวิตแม้ไม่สมบูรณ์แบบ ซ้ำความรักก็หวาน (มีคลิป)

พิการแต่ไม่ท้อในโชคชะตา "ช่างเก้า" ช่างซ่อมรถขวัญใจคนโพธาราม แม้ร่างกายแค่ "ครึ่งท่อน" แต่หัวใจแกร่ง สู้ชีวิตยึดทำอาชีพที่ถนัด อีกทั้งยังมีชีวิตรักและครอบครัวที่ใครๆ ยังต้องอิจฉา

(12 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่เรื่องราวชีวิตของชายครึ่งท่อน ที่ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา ยึดอาชีพเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ในร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งในอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ทำให้เป็นเรื่องราวตัวอย่างของการดำเนินชีวิตสำหรับผู้ที่กำลังท้อ หมดกำลังใจ แม้สภาพร่างกาย สติปัญญายังสมบูรณ์

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์ดังกล่าว พบเปิดเป็นอู่ซ่อมรถจักรยนต์ ตั้งอยู่บริเวณริมถนนเกษม สี่แยกทางเข้าใกล้กับเทศบาลตำบลบ้านสิงห์ หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เป็นของนางศศธร และ นายธนกร เจ้าของอู่

แต่ที่ต้องสะดุดตา เพราะพบชายมีสภาพครึ่งท่อน สวมเสื้อยืดสภาพเก่าเลอะคราบน้ำมันไปทั้งตัว ซึ่งเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ประจำอู่แห่งนี้ กำลังนั่งพักเหนื่อยจากการทำงานและพูดคุยอยู่กับผู้คนที่ทราบข่าวและแวะเวียนมาเยี่ยมถามสารทุกสุขดิบด้วยความเป็นกันเองอัธยาศัยดี

คนที่บ้านสิงห์นี้จะรู้จักกันในนาม "ช่างเก้า" หรือ นายนพเก้า วัย 47 ปี โดยชื่อ “เก้า” มาจากเพราะเขามีนิ้วมือเพียงแค่ 9 นิ้ว มือขวา 5 นิ้ว ส่วนมือซ้ายมีเพียง 4 นิ้ว อีกทั้งปัจจุบันยังมีความรักที่หวานชื่นกับภรรยา และมีลูกด้วยกัน 3 คน

ช่างเก้า มีความชำนาญคล่องแคล่วว่างไวดั่งกับคนที่มีอาการครบ 32 ทั่วไป สามารถเคลื่อนตัวอย่างว่องไว ทำเหมือนคนปกติทั่วๆไป ทั้งขี่รถจักรยานยนต์สามล้อ ซ่อมรถจักรยานยนต์ ปะเปลี่ยน ถอดล้อ ซ่อมเครื่องยนต์ หรือ แม้กระทั่งประกอบรถจักรยานยนต์ให้มีสภาพสมบูรณ์เหมือนใหม่เพิ่งถอยออกจากร้านเลยก็ว่าได้

นางศศธร เจ้าของอู่ เปิดเผยว่า ตนได้รับนายเก้ามาเข้าทำงานตั้งแต่นายเก้ายังเด็ก เพิ่งจบเรียนใหม่ๆ ด้วยความขยัน เรียนรู้และอดทน ครั้งแรกที่พบกับนายเก้า เจ้าตัวจะนำรถจักรยานยนต์มาซ่อม เขาทำของเขาเองด้วยการสอบถามกับช่างประจำร้าน และเข้าก็หัดทำจนเป็นและก็มาที่ร้านบ่อยๆ มาแบบหัดทำทุกวัน จนเกิดความชำนาญและทำได้ จึงมาขออาศัยอยู่เป็นเด็กช่วยงานที่ร้าน

ทั้งนี้เราก็ไม่ได้ให้เงินเดือนอะไร เพราะคิดว่าเขาแบบเด็กฝึกงานทั่วๆ ไป เวลาผ่านไประยะหนึ่งช่างที่ร้านเริ่มลดหายไป ก็เลยรับเขาเข้าทำงานและให้ค่าแรง จนมาตั้งเงินเดือนให้และเป็นช่างประจำร้าน เริ่มแรกเราให้วันละ 150 บาท และมาขึ้นเป็น 200 – 300 บาท และก็ทำอยู่ได้หลายปี จนลาออกไปเปิดร้านเป็นของตัวเองเนื่องจากออกไปแต่งงานและมีลูก ซึ่งตนก็สนับสนุน

นางศศธร หลังจากที่นายเก้าออกไปเปิดร้านของตัวเอง เป็นเวลา 10 ปี แต่ไปไม่ไหวนายเก้าจึงกลับมาสมัครงานที่ร้านอีกครั้ง ซึ่งตนและสามีก็รับเข้าทำงานเหมือนเดิม ปัจจุบันก็ให้ค่าแรงวันละ 500 บาท ถ้ามีงานเยอะเราก็ให้พิเศษ 600 – 700 บาท และปัจจุบันก็เป็นช่างประจำร้าน สาเหตุที่กล้าไว้ใจและให้เข้าทำหน้าที่เป็นช่างซ่อมรถของลูกค้า เนื่องจากความจำเขาดี แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์แต่แขนเขากำลังดีมาก ทำได้ทุกอย่างจากที่เราคิดว่าเขาไม่น่าที่จะทำได้ แต่เขาก็ทำได้

นายเก่งมีเป็นขยัน ไม่อวดรู้ มาเช้ากลับมืด อีกทั้งยังมีความรับผิดชอบ เป็นกันเองกับลูกค้า จึงรับเขาเข้ามาทำงานจนมาถึงทุกวันนี้ รวมแล้วก็กว่า 30 ปีแล้ว จนลูกค้าที่มาพูดกันปากต่อปากว่า เป็นร้านของ “ช่างเก้า” ซึ่งตนก็ไม่มีปัญหาใด เพราะมีคนรู้จักเขาเยอะมีมนุษย์สัมพันธ์ดีใครจะว่าอะไรเขาไม่โกรธ ตนเองก็ดีใจที่เราไว้ใจเขาให้โอกาสเขาในวันนั้น ทำให้อู่ของตนยังเปิดไปได้และมีลูกค้ามาใช้บริการอยู่ไม่ขาดสาย

ขณะที่ ช่างเก้า หรือ นายนพเก้า เปิดเผยว่า ตนเองพิการมาแต่กำเนิดคลอดมาก็พบว่าไม่มีขา มีนิ้วเท้ามาแค่ 3 นิ้วเท่านั้น แต่ช่วงอวัยวะเพศยังสมบูรณ์ดี ส่วนนิ้วมือ ขวามี 5 นิ้ว นิ้วมือซ้ายมี 4 นิ้ว พ่อแม่จึงตั้งชื่อให้ว่า นพเก้า ตนมีพี่น้องด้วยกัน 3 คน ทุกคนมีร่างกายครบสมบูรณ์ดี ซึ่งตนมองว่าการที่ตนเองไม่มีขา ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่เป็นปัญหากับชีวิต ไม่เคยคิดย่อท้อและน้อยใจในโชคชะตาที่เกิดมาพิการ การใช้ชีวิตก็เหมือนคนปกติทั่วไป

ตนเองมีความรู้เพียงแค่ชั้น ป.3 ยึดอาชีพเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ มาตลอดจนถึงปัจจุบัน ด้วยความที่ตนเองเป็นคนชอบเรียนรู้ไม่ย่อท้อ ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ จึงมุมานะจนมีความชำนาญสามารถไปไหนมาไหนได้เหมือนคนปกติ ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้ ปีนขึ้นที่สูงได้ และเคลื่อนย้ายตัวได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ใช่ปัญหาและอุปสรรค์ในการดำเนินชีวิต ทุกวันนี้ขอเพียงเรามีงานทำ มีเงินเลี้ยงครอบครัว เราก็มีความสุขแล้ว เช้ามาทำงานรับผิดชอบในหน้าที่เย็นกลับบ้านทำหน้าที่สามีดูแลครอบครัวช่วยงานในบ้านแบ่งเบาภาระของภรรยา

นอกจากนี้ ช่างเก้า ยังเผยเรื่องราวความรักก็ยังหวานดี ปัจจุบันตนมีครอบครัวมาหลายปีแล้ว ภรรยาเป็นคนที่น่ารัก เข้าใจตนและทุกเรื่องยอมรับในสิ่งที่ตนเองเป็น ถึงแม้ตนเองจะผ่านการมีครอบครัวมาแล้วถึง 3 ครั้ง และมีลูก 3 คน คนโตและคนกลางเรียนชั้นที่สูงแล้ว ส่วนคนเล็กอายุยังน้อยอยู่ แต่ภรรยาเป็นคนที่เข้าใจ เพราะเรื่องก็ผ่านมานานแล้ว ต่างคนก็ต่างมีชีวิตใหม่กันหมดแล้วเช่นกัน

เมื่อถามถึงเรื่องอุปสรรค์ในการครองเรือนหรือไม่ ตรงนี้ตนเองตอบได้ด้วยความมั่นใจเลย “ไม่มี” เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ เช้าตนเองออกมาทำงานที่อู่ซ่อมรถ ภรรยาก็ไปทำงานประจำของตนเอง เมื่อกลับมาถึงบ้านเราก็เอางานกองไว้ที่อู่ไม่เอาเข้าบ้าน กลับถึงบ้านก็ทำหน้าที่ผู้เป็นสามี ล้างจาน ปัดกวาดเช็ดถูบ้าน ซักผ้า ดูแลครอบครัว ภรรยาก็จะมาช่วยกันทำ ครอบครัวจึงมีความสุข อีกอย่างเคล็ดลับ คือการที่ตนเองจะเป็นคนที่ “พูดจาอ่อนหวาน ไพรเราะ เป็นกันเอง”

ส่วนทุกวันนี้ร้านอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ตนเองทำอยู่ จะมีลุกค้าเจ้าประจำแวะเวียนนำรถมอเตอร์ไซค์ รถจักรยาน มาให้ซ่อมทุกวันทั้ง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนยางใน ยางนอก ปะยางรถ และซ่องเครื่องยนต์ บางวันรถเยอะลูกค้าก็นำมาให้ทำ เพราะคุ้นฝีมือและความเป็นกันเอง โดยลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันอย่างไม่ขาดสาย