ฝุ่นเชียงใหม่ กลับมาทวงแชมป์ มลพิษพุ่งทะยานสูง คนติดแฮชแท็ก "จะไม่ทน"
![ฝุ่นเชียงใหม่ กลับมาทวงแชมป์ มลพิษพุ่งทะยานสูง คนติดแฮชแท็ก "จะไม่ทน"](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1548/7741926/news14.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
สถานการณ์ฝุ่นเชียงใหม่กลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง ช่วงวันสงกรานต์ปีนี้ หลังหมอกควันไฟป่าเริ่มกลับมาปกคลุมเมือง ค่ามลพิษทะยานพุ่งขึ้นเรื่อยๆ เกินค่ามาตรฐานเป็นสีแดง
(12 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า บรรยากาศเช้านี้จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มกลับมามีหมอกควันจากไฟป่าปกคลุมอีกครั้ง และค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กเพิ่มสูงขึ้น อยู่ในระดับสีแดง ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกครั้ง
จาก ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าเช้านี้เมื่อเวลา 08.00 น. ค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอนุภาคต่ำกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM 2.5 เกือบทุกจุดเพิ่มขึ้น โดยกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง วัดได้ 99 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดได้ 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะเดียวกัน พบว่าจากข้อมูลของ เว็ปไซด์ AirVisual.com พบว่าจากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศหรือค่า US AQI จากหัวเมืองใหญ่จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกพบว่าค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ใกล้จะกลายเป็นแชมป์อีกครั้ง อยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก วัดได้ 198 US AQI
และจากสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ต่อเนื่องยาวนานนับเดือนที่ผ่านมา จนส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายด้าน โดยเฉพาะผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะนี้ผู้ที่ใช้โซเชียลมีเดียทั้งที่เป็นชาวเชียงใหม่และทั่วประเทศจำนวนมากต่างพากันติดแฮชแท็ก #เชียงใหม่จะไม่ทน
หลังจากที่เฟซบุ๊ก "บัณรส บัวคลี่" หนึ่งในแกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้โพสต์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันแสดงพลังด้วยการติดแฮชแท็กดังกล่าว เพื่อแสดงพลังในการเรียกร้องและขับเคลื่อนให้ภาครัฐและหน่วยงานราชการมีการพัฒนายกระดับวิธีการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้งปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นประจำอย่างซ้ำซากของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาเดิมๆ ที่เกิดขึ้น
ทำให้มีการรณรงค์ด้วยการติดแฮชแท็ก #เชียงใหม่จะไม่ทน พร้อมมีการกำหนดนัดหมายให้ประชาชนทั่วไปร่วมกันระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ ในวันที่ 17 เมษายนนี้ ที่ วัดล่ามช้าง ตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อรวบรวมนำเสนอและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาต่อไป
ทั้งนี้หนึ่งในประเด็นที่น่าจะมีการพูดคุยกันในวันนั้นเป็นเรื่องของการกำหนดคุณสมบัติของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่กระทรวงมหาดไทยควรจะแต่งตั้งมาให้รับตำแหน่งในช่วงของการโยกย้ายช่วงปลายปี 2562 นี้ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนชาวเชียงใหม่