สุดชั่ว! คนบ้านเดียวกันคว้ากรรไกรแทงคอป้าวัย 62 ปีชิงเงิน-จยย.สารภาพหาเงินซื้อยาเสพ
หนุ่มวัย 36 ปี คนตำบลเดียวกัน ขอซ้อน จยย.เพื่อนร่วมตำบลกลับบ้าน หลังจากกลับจากงานศพ ก่อนคว้ากรรไกรที่พกติดตัว จี้แทงคอ ป้าวัย 62 ปี ชิงเงินร่วมหมื่นและ จยย. นำไปทิ้งน้ำ สารภาพนำเงินซื้อยาบ้าเสพ
(12 เม.ย. 62) พล.ต.ต ธวัชชัย มวญนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร พ.ต.อ. ธิติรัตน์ แก้วอ้อน ผกก.สภ.เมืองพิจิตรพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองพิจิตร ทำการจับกุม นายวิโรจน์ หรือเจ๋ง อายุ 36 ปี ชาวบ้านตำบลโรงช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร พร้อมยาบ้ายาเสพติด จำนวน 12 เม็ด
หลังจากที่ก่อเหตุใช้กรรไกรจี้แทงคอ ชิงเงินสด จำนวน 10,300 บาท จาก นางลำจวน อายุ 62 ปี ชาวบ้านตำบลโรงช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ก่อนจะนำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน จ.พิจิตร ทิ้งลงไปในคลองชลประทาน เมื่อ คืนวันที่ 10 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา
โดยเหตุเกิดจากที่ นายวิโรจน์ ได้รู้จัก กับ นางลำจวน ซึ่งเป็นชาวบ้านตำบลเดียวกัน และได้ขออาศัย ซ้อนรถจักรยานยนต์ เพื่อจะกลับบ้าน หลังไปงานศพในต่างตำบล
โดยระหว่างกลับพอมาถึงที่เกิดเหตุ ถนนหน้าโรงเรียนโรงช้าง อำเภอเมืองพิจิตร ผู้ต้องหาใช้มือปิดปาก แล้วใช้อาวุธกรรไกร ที่เตรียมมาจากบ้าน แทงบริเวณลำคอ และ ได้ชิงเงินสดที่บรรจุ ในกระเป๋าสะพายไป จำนวน 10,300 บาท และ ได้ขับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป
จนกระทั่งผู้เสียหายได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ป้อมสายตรวจตำบลโรงช้าง เพื่อส่งตัวรักษา โรงพยาบาลพิจิตร
นายวิโรจน์ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ รับสารภาพว่า ทำไปเพราะอยากได้เงินมาซื้อยาเสพติด โดยหลังก่อเหตุทำร้ายและจี้ชิงเงินจากผู้เสียหายแล้ว จึงขับรถจักรยานยนต์ มาทิ้งคลองชลประทาน ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งห่างจากจุดจี้ชิงทรัพย์ 5 กิโลเมตร
โดยมาถึงที่ทิ้งรถ นั่งคิดสักชั่วครู่ จึงทิ้งรถจักรยานยนต์ ลงน้ำ ก่อนที่อาศัยซ่อนตัวในป่ารอจนกระทั่งสว่างจึงออกไปซื้อยาเสพติดมาเสพ
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา ซึ่งมีอาการเมายาเสพติดที่นำเงินที่จี้ชิงทรัพย์มาได้นำไปซื้อยาเสพติด จำนวน 30 เม็ด และ เสพไปจนเหลือ 12 เม็ด และ บางส่วนนำไปเที่ยวเตร่ เหลือเงินจากที่จี้ชิงทรัพย์ได้ 2 วัน เหลือ เพียง 40 บาท
ขณะที่ พล.ต.ต ธวัชชัย มวญนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ระบุว่า โดยผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายได้ไปงานศพที่ต่างตำบล โดยผู้ต้องหาได้ขออาศัยกลับบ้านมาด้วยเนื่องจากรู้จักกัน และเป็นคนตำบลเดียวกัน
จากนั้นจึงใช้กรรไกรแทงผู้เสียหายจนบาดเจ็บและนำเงิน และรถจักรยายนต์หลบหนีไป โดยนำ จยย.ไปทิ้งน้ำ ซึ่งเบื้องต้น ทางผู้ต้องหา ให้การสารภาพ ทำไปเพราะต้องการนำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดมาเสพ
โดยระหว่างจับกุม ผู้ต้องหามีอาการเมายา เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งขอหา “ทำร้ายร่างกาย และ จี้ชิงทรัพย์” และจับกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไป