ปาร์ตี้โฟมมรณะ ปี 57 ศาลสั่งเทศบาลพิจิตรชดใช้ผู้เสียชีวิต-พิการ 8.3 ล้าน
ที่ศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตร ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำที่ 370-371 / 2561 คดีหมายเลขแดงที่ 376-377 / 2562 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ความแพ่งที่มี นายเมธี บุญปู่ , นางสาวกรศิริ บุญศรี หรือบุญปู่ เป็นโจทก์ ระหว่างเทศบาลเมืองพิจิตร จำเลยที่ 1 , เจ้าหน้าที่รัฐและพวกที่เป็นจำเลยที่ 2 – 13 โดยคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2557 บริเวณสวนสิริกิติ์บึงสีไฟ
ซึ่งในคราวนั้นเทศบาลเมืองพิจิตรได้จัดกิจกรรมวันสงกรานต์รวมถึงได้จัดให้มีปาร์ตี้โฟม โดยว่าจ้างเอกชนรายหนึ่งมาเป็นผู้รับจ้างในราคา 37,000 บาท โดยวิธีตกลงราคา ซึ่งคราวนั้นผู้รับจ้าง เสนอราคาการจัดงานดังกล่าว ว่า ปกติงานปาร์ตี้โฟมที่พยาน หรือจำเลยที่ 10 รับจัด ผู้ว่าจ้างจะให้ทำทั้งระบบ รวมทั้งบุคลากรที่ใช้ในงานแสดง คือ พิธีกร ดีเจ โคโยตี้ ทีมงาน คือ บุคคลที่จัดเช็คระบบทุกอย่างรวมถึงดูแลความปลอดภัย ซึ่งเป็นออแกไนซ์เซอร์ หรือผู้จัดงาน จะเป็นผู้ควบคุมสั่งการทั้งหมดจนงานเสร็จคิดค่าใช้จ่ายต่อหัวทำโฟม 1 หัว ประมาณ 70,000 บาท
แต่พนักงานเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองพิจิตร แจ้งว่ามีงบประมาณไม่พอ ดังนั้นเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าเทศบาลเมืองพิจิตรมีแผนกกองช่างอยู่แล้ว จึงจะทำการติดตั้งระบบไฟฟ้าด้วยตนเอง ส่วนระบบน้ำก็มีถังน้ำและรถน้ำอยู่แล้ว จึงจะดำเนินการเกี่ยวกับระบบน้ำด้วยตนเอง แผงเหล็กกั้นโฟมจะใช้แผงรั้วจราจรคลุมทับโครงเหล็กด้วยไวนิล จึงต้องการเช่าแต่เครื่องทำโฟมอย่างเดียว
เมื่อการจัดปาร์ตี้โฟมจึงเป็นกิจกรรมของเทศบาลเมืองพิจิตรและเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้น้ำและกระแสไฟฟ้าในการทำโฟม ไฟฟ้าเป็นทรัพย์อันตราย ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากน้ำอาจทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าลัดวงจรเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้ การใช้แผงเหล็กจราจรมาล้อมรอบลานโฟมเป็นอันตรายมากหากมีกระแสไฟฟ้ารั่ว
>> ปาร์ตี้โฟมบึงสีไฟ จ.พิจิตร ไฟรั่วช็อตเด็กดับ 1
เมื่อบึงสีไฟสถานที่จัดงานอยู่ในความดูแลของเทศบาลเมืองพิจิตร กระแสไฟฟ้าในเขตบึงสีไฟที่ใช้ในกิจกรรมปาร์ตี้โฟมอยู่ในความดูแลของเทศบาลเมืองพิจิตร เมื่อเด็กมาเล่นปาร์ตี้โฟมที่เทศบาลเมืองพิจิตรจัดขึ้น ถูกกระแสไฟฟ้าดูดหรือช็อตส่งผลให้ เด็กชายพีชากร บุญปู่ อายุ 14 ปี ถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ ส่วนเด็กชายปฏิเวธ เที่ยงกิจธรรม อายุ 17 ปี ถูกไฟฟ้าช็อต จนกลายเป็นผู้พิการทุพพลภาพ จนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ กลายเป็นภาระของพ่อแม่ของคนในครอบครัวที่ต้องคอยดูแล อีกทั้งความหวังของพ่อแม่ที่หวังจะได้พึ่งพาลูกให้เติบโตเป็นเสาหลักของครอบครัวก็ต้องมาดับวูบลง เพราะอุบัติเหตุจากการจัดงานปาร์ตี้โฟมของเทศบาลเมืองพิจิตรดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่เหตุสุดวิสัย
หลังจากเกิดเหตุฝ่ายผู้เสียหายได้ฟ้องร้องเทศบาลเมืองพิจิตร นายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร รองนายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร เจ้าหน้าที่เทศบาลที่เกี่ยวข้อง เจ้าของปาร์ตี้โฟม ต่อศาลยุติธรรมและต่อสู้คดีจนมาถึงศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษาให้จำเลย คือเทศบาลเมืองพิจิตรรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนนายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร รองนายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร และเจ้าหน้าที่ที่ถูกฟ้องเป็นเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองพิจิตรซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดต่อผู้เสียหายในผลแห่งละเมิดที่เจ้าหน้าที่ได้กระทำลงในการปฏิบัติหน้าที่ จึงฟ้องได้เฉพาะเทศบาลเมืองพิจิตรจะฟ้องเจ้าหน้าที่ไม่ได้
ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาให้เทศบาลเมืองพิจิตรต้องรับผิดชดใช้ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะ ค่ารักษาพยาบาล ค่าพาหนะ ค่าขาดรายได้จากการทำงาน รวมเป็นเงิน 8,366,487.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และค่ารักษาพยาบาลเด็กชายปฏิเวธอีกเดือนละ 20,000 บาทจนกว่าจะหาย โดยกำหนดให้เจ้าของปาร์ตี้โฟมและลูกจ้างรับผิด 1 ใน 6 ส่วนของค่าเสียหายดังกล่าว