เปิดคำสารภาพ "ปุ๊" มือสปาต้าฟันพ่อเจ็บ-ลูกตาย อ้างอีกฝ่ายเริ่มความแค้นก่อน

ตำรวจคุมสอบสวนเข้ม มือสปาต้าฟัน 2 พ่อลูก ทำร้ายคนพ่อบาดเจ็บ เช้ามาฟันคนลูกดับอนาถ อ้างเพราะความบาดหมาง อีกฝ่ายมาหาเรื่องก่อน

(16 เม.ย.) พ.ต.ท.สิทธิ์ หวังสุขกลาง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ทำการสอบปากคำ นายเกษรินทร์ หรือ ปุ๊ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดดาบ หรือ มีดสปาต้า ฟันใส่ นายสวัสดิ์ อายุ 74 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา จากนั้นรุ่งเช้าของวันที่ 15 เมษายน ได้ใช้มีดกระหน่ำฟัน นายแคล้ว อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนายสวัสดิ์ถึงแก่ชีวิต

จากการสอบปากคำ นายเกษรินทร์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุทั้งหมดจริง พร้อมกับอ้างว่าเตยมีเรื่องบาดหมางกับสองพ่อลูกมาก่อน โดยในวันเกิดเหตุถูก นายสวัสดิ์ พูดจาท้าทายจึงโมโหใช้มีดไล่ฟันบาดเจ็บจากนั้นเช้าวันต่อมา ขณะที่ตนขี่รถจักรยานยนต์ออกไปขายของ เห็น นายแคล้ว ลูกชายของสวัสดิ์ขี่รถยนต์มากับเพื่อนอีก 2 คนพอดี

ด้วยความที่ นายแคล้ว โกรธแค้นที่ตนไปทำร้ายพ่อ จึงพยายามขี่รถไล่ชนตน ทำให้ตนล้มลงพร้อมกับรถจักรยานยนต์ อีกทั้งยังอ้างว่า นายแคล้วกับเพื่อนพยายามจะใช้อาวุธปืนยิงใส่ แต่ปืนด้านยิงไม่ออก จากนั้นก็เกิดการต่อสู้กัน ซึ่งตนพกอาวุธมีดมาด้วย จึงได้ลงมือกระหน่ำฟันนายแคล้วถึงแก่ชีวิต ย้ำว่าที่ทำลงไปเพราะเป็นการป้องกันตัว ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมได้

แต่เมื่อถาม นายเกษรินทร์ ว่าในวันเกิดเหตุได้เสพยาเสพติดหรือไม่ นายเกษรินทร์กลับปฏิเสธว่าไม่ได้เสพ แต่เกิดจากความโมโหที่ถูกคู่กรณีหาเรื่องและพยายามจะไล่ยิงก่อน แต่ก็ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยเสพยาและเคยถูกจับคดีเสพยามาก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนข้อหาเกี่ยวกับยาเสพยังต้องผลการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายมาประกอบคดี

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายเกษรินทร์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยไม่มีเหตุชุลมุนใดๆ เพราะไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีการทำแผนในวันนี้

ขณะที่ภรรยาของผู้เสียชีวิตยังเศร้าโศกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับเคาะโลงศพบอกสามีว่า "หากว่าชาติหน้ามีจริง ขอให้เกิดเป็นสามีภรรยากันอีกนะ" และเรียกร้องให้ลงโทษผู้ก่อเหตุถึงที่สุด เป็นไปได้ก็อยากให้แลกด้วยชีวิต เพราะเป็นการกระทำที่เหี้ยมโหดมาก