9 ปีเหตุแผ่นดินวิปโยคคร่า 3 พันชีวิต ชาวอวี้ซู่สร้างชีวิตขึ้นใหม่
ผ่านมา 9 ปีแล้ว สำหรับเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในแคว้นปกครองตนเองกลุ่มชาติพันธุ์ทิเบตอวี้ซู่ (Yushu Tibetan Autonomous Prefecture) ในมณฑลชิงไห่ของประเทศจีน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปราว 3,000 คน
ปัจจุบัน โรงเรียน โรงพยาบาล และลานจัตุรัสแห่งใหม่จำนวนมาก ได้ผุดขึ้นจากร่องรอยของความเสียหายในอดีต ในขณะเดียวกันชาวบ้านที่นี่ก็กำลังสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง
Lodru Gyatso เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ผู้เสียครอบครัวไปเพราะเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.1 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2010 เล่าว่าตอนเกิดเหตุเขากำลังอ่านหนังสืออยู่ในโรงเรียน แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพี่ชายก็บอกกับเขาว่า พ่อถูกฝังอยู่ใต้ซากบ้านที่พังทลายลงมา
แม่ของ Gyatso เสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเล็ก หลังเหตุแผ่นดินไหว เขาเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเด็กกำพร้าในท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนมากกว่า 460 คน และพ่อแม่ของนักเรียนหลายคนเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว
ผู้บริหารโรงเรียนกล่าวว่า โรงเรียนได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก หลังเหตุภัยพิบัติครั้งนั้น ทำให้สามารถปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของโรงเรียนได้ จากเดิมที่เคยเป็นบ้านชั้นเดียว ก็พัฒนาจนมีอาคารเรียน หอพัก โรงอาหาร และห้องสมุด รวมถึงอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย
Dawa Tsedin พนักงานส่งอาหารชาวอวี้ซู่วัย 23 ผู้จบการศึกษาจากสถาบันอาชีวศึกษาในนครซีอาน กล่าวว่า แม้บางครั้งอาชีพนี้อาจจะน่าเบื่อไปบ้าง แต่มันก็ทำให้เขาได้เห็นนิเวศใหม่ที่สวยงามและทันสมัยของอวี้ซู่ ซึ่งพัฒนาขึ้นจากเมืองชนบทอันห่างไกล ในช่วงเก้าปีที่ผ่านมา
เขาเลือกกลับมาทำงานที่นี่เพราะมองเห็นว่าธุรกิจจัดส่งอาหารของเมืองมีศักยภาพอย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาในอดีตไม่เคยคาดคิดมาก่อน
อาคารใหม่สไตล์ทิเบต ย่านธุรกิจใหม่ และถนนกว้าง ล้วนผุดขึ้นมาในอวี้ซู่ ซึ่งเป็นภูมิทัศน์ที่ตรงข้ามกับสภาพของที่นี่ก่อนเกิดแผ่นดินไหวอย่างชัดเจน
หลังมรสุมพัดผ่าน รอยร้าวลึกจากภัยพิบัติถูกเติมเต็มด้วยการบริหารจัดการเมือง และการพัฒนาที่นี่ให้เป็นเมืองอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีระดับสูง
รายงานกล่าวว่า จนถึงปัจจุบันอวี้ซู่ใช้เงินทุนมากกว่า 6 ล้านหยวน ( 30 ล้านบาท) ในการสร้างเครือข่ายการจัดการอัจฉริยะที่ครอบคลุมถนนทุกสายและชุมชนทุกแห่งของเมือง
ในกระบวนการก่อร่างสร้างเมืองใหม่นี้ ปักกิ่งยื่นมือให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในด้านเงินทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงส่งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา การแพทย์ การวางผังเมือง และการบริหารเมืองมาช่วย
Pei Zhifei สูตินรีแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ทำงานที่โรงพยาบาลประชาชนอวี้ซู่มาตั้งแต่ปี 2017 โดยเธอเป็นอาจารย์แพทย์ผู้ถ่ายทอดวิธีการการผ่าตัดที่ซับซ้อนให้กับแพทย์ในท้องถิ่น
“ตอนนี้ผู้ที่ป่วยหนักจำนวนมากได้รับการรักษาที่อวี้ซู่ และมีผู้ป่วยจำนวนมากจากมณฑลเสฉวนและทิเบต ที่เดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลของเรา" เธอกล่าว
ข้อมูลทางการแสดงให้เห็นว่า มีบุคลากรด้านการศึกษาและการแพทย์จากปักกิ่ง ที่มาทำงานที่นี่จำนวน 163 ราย
นอกจากนี้ ไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศเพิ่มก็ขึ้น เนื่องจากอวี้ซู่กำหนดให้การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของตน
อนึ่ง แคว้นปกครองตนเองอวี้ซู่เป็นที่ตั้งของเขตอนุรักษ์ธรรมชาติโฮซิล (Hol Xil) และเป็นแหล่งต้นกำเนิดของแม่น้ำแยงซี แม่น้ำเหลือง และแม่น้ำหลานชาง (แม่น้ำโขง) ซึ่งมีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวให้พัฒนาได้มากมาย
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ