จับแล้วหัวโจกยิงสาว 17 ตายงานสงกรานต์ แฉดวลปืนกับคู่อริ-ใช้ผู้หญิงเป็นโล่กำบัง
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 เมษายน นางสาวปิยะธิดา หรือ น้องมิ้ม อายุ 17 ปี สาวเคราะห์ร้ายถูกลูกหลงจากกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงกัน ขณะเล่นสงกรานต์ที่บริเวณ วัดมงคลทับคล้อ จ.พิจิตร เป็นเหตุให้นางสาวปิยะธิดาโดนกระสุนเจาะหน้าอก 2 นัดเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน
>> สาว 17 ถูกยิงตายกลางงานสงกรานต์ แม่สะอื้นลูกเพิ่งแชทบอก "ดีใจที่เกิดเป็นลูกแม่"
นายสราวุธ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ตนเองพร้อมเพื่อนๆ และญาติประมาณ 10 คน เดินทางจากอำเภอบางมูลนาก เพื่อมาเล่นสงกรานต์ที่ทับคล้อ ขณะที่จอดรถข้างถนนที่เกิดเหตุ กำลังจะกลับบ้าน ระหว่างนั้นมีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ประมาณกลุ่มละ 10 คน ขับรถจักรยานยนต์ตามกันมา โดยวัยรุ่นกลุ่มแรกได้จอดรถหลังรถยนต์กระบะจากนั้นมีชายคนหนึ่งรูปร่างผอมสูง ผมยาว ได้แฝงเข้ามาในกลุ่มของตนก่อนใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มที่ 2 ที่อยู่บริเวณกลางถนน โดยใช้กลุ่มของตนเองเป็นโล่กำบังกระสุน จากฝ่ายตรงข้าม จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มที่ 2 วัยรุ่นผมเกรียน ได้ยิงปืนสาดกระสุนสวนกลับมา
เมื่อเสียงปืนสงบลงกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่มได้สลายตัวไป จึงพบว่ามีนางสาวปิยะธิดาและเพื่อนอีก 3 คน ที่ยืนอยู่ท้ายรถกระบะถูกยิง โดยมีร่องรอยของกระสุน บริเวณท้ายรถจำนวน 2 แห่ง
นายสราวุธ กล่าวอีกว่ารู้สึกเสียใจกลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกผิดที่พาน้องมาเสียชีวิต ทั้งที่พวกเราตั้งใจมาเล่นสงกรานต์เพื่อความสนุกสนานและกำลังจะกลับบ้านในช่วงเวลาที่ไม่ดึกนักแต่ก็มาประสบเหตุแบบนี้เสียก่อน
ล่าสุด (19 เม.ย. 62) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรทับคล้อสามารถจับกุม นายวีรวัฒน์ หรือ โต้ง อายุ 20 ปี ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อเหตุเปิดฉากยิงปืนกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ โดยใช้กลุ่มของสาวเคราะห์ร้ายเป็นโล่ป้องกัน เมื่ออีกฝ่ายยิงตอบโต้จนเกิดเหตุสลดขึ้น โดยสามารถจับกุมได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านญาติในพื้นที่ตำบลวังสำโรง ในอำเภอตะพานหิน จากนั้นได้ควบคุมตัวไปชี้จุดที่เกิดเหตุ โดยให้นายโต้งสวมหมวกกันน็อค หลังชี้จุดบริเวณที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายวีรวัฒน์สอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรทับคล้อ
ขณะที่บรรยากาศที่สถานีตำรวจภูธรทับคล้อหลังทราบข่าวการจับกุมนายโต้ง บรรดาญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิต กว่า 30 คน เดินทางมาปักหลักที่สถานีตำรวจเพื่อติดตามสถานการณ์ ขณะที่การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นสถานที่ในการสอบ การสอบสวนเป็นไปอย่างเคร่งเครียดโดยยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ