พ่อแม่รับศพลูก 2 ขวบทั้งน้ำตา หลังตายปริศนา ยังไม่ชัด "ตา" เป็นคนฆ่า?

พ่อแม่ของเด็กหญิง 2 ขวบ เข้ารับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาทั้งน้ำตา ด้านพี่ชายของตาที่ดูแลหลาน ยอมรับน้องป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เคยแทงเมียแต่อ้างไม่รู้ตัว

จากกรณีที่ น้องอ้อ (นามสมมติ) อายุ 2 ขวบ ที่อาศัยอยู่กับตา ปรากฏว่าเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา พบอาการกะโหลกร้าว เลือดออกในสมอง สมองบวม ร่างกายมีอาการฟกช้ำ แพทย์โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ลงความเห็นว่า น้องเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ เพื่อให้แพทย์นิติเวช ทำการชันสูตรพลิกศพ และได้รับการยืนยันว่า น้องเสียชีวิตเพราะได้รับบาดจ็บรุนแรงที่ศีรษะ จากการถูกกระแทกด้วยของแข็ง

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (19 เม.ย.) เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท นำศพ น้องอ้อ มายังวัดมาติการาม เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติและครอบครัว โดยจะทำพิธีสวดอภิธรรมศพน้อง 3 วัน แล้วจึงทำการฌาปนกิจศพ

>> แคลงใจทั้งตำบล หนูน้อย 2 ขวบตายปริศนา ตาหนีบวช-จ้องฆ่าตัวตาย

ส่วนเรื่องคดีความ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สรรคบุรี เจ้าของพื้นที่ จะเชิญตัว นางสาววรัญญา และนายภูมิกิตติ พ่อแม่ของเด็กมาแจ้งและรับทราบสาเหตุการตายของลูกสาว และจะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนพยาน หลักฐาน ในที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ นายสำเริง อายุ 56 ปี พี่ชายของนายสำรวม ผู้เป็นตาและดูแลน้องกุ๊งกิ๊ง ได้เปิดเผยว่า ตนไม่คิดว่าน้องชายจะเป็นคนทำ เมื่อก่อนเขาดื่มเหล้าหนักมาก แต่ตอนนี้เลิกดื่มไปนานแล้ว การสูญเสียครั้งนี้ทำให้ตนช็อกและไม่พูดถูก ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หากจะต้องมีการดำเนินคดีก็ขอให้เป็นกระบวนการของทางตำรวจ

โดยปกติพ่อแม่ของน้องอ้อไปทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้ต้องฝากตาเลี้ยงดูแลให้ โดยเมื่อปีที่แล้วน้องชายเคยมีเรื่องทะเลาะกับภรรยา ก่อนจะใช้อาวุธมีดแทงภรรยาได้รับบาดเจ็บ และพยายามแทงตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ช่วยเอาไว้ได้ทัน หมอเคยระบุว่าอาจเป็นโรคซึมเศร้า แต่เจ้าตัวบอกเขาไม่เป็นอะไร

แต่พอไปถามว่าทำไปทำไม เขาบอกว่าตอนที่ทำร้ายภรรยา เขาแทบไม่รู้ตัวเลย แต่ช่วงที่เกิดเหตุกับหลานตนก็ไม่ทราบเรื่อง เพราะบ้านอยู่ห่างกันหลายหลัง ตอนนี้ก็พอรู้เรื่องที่เขาพยายามฆ่าตัวตายถึง 2 รอบแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นผู้ก่อเหตุกับหลานหรือไม่ หรือเพียงแค่รู้สึกผิดและโทษตัวเองที่ดูแลหลานไม่ดีจึงคิดสั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่สืบสวนและชี้แจงจะดีกว่า