เมียเอาน้ำกรดให้ดื่ม ผัวฉุนยิงตายคาสวนยาง ยังทำเนียนเศร้าโศก
สาวลาวถูกจ่อยิงระยะเผาขนตายคากระท่อมสวนยางพาราด้วยปืนลูกซองยาว ตำรวจสอบเข้มสามี สุดท้ายสารภาพฆ่าเมียตายเพราะโกรธที่เอาน้ำกรดมาให้ดื่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (20 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. สภ.วังสะพุง จ.เลย ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในกระท่อมสวนยางพารา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง หมู่ 16 บ้านนาบัว ต.ทรายขาว อ.วังสะพุง
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสภาพนอนหงายมีหมอนสีแดงหนุนหัว มือทั้งสองข้างกุมอยู่ที่หน้าท้อง สะพายยามลายผ้าขาวม้าแขวนคอด้านซ้ายมือ ข้างตัวด้านขวามีผ้าเช็ดตัวสีส้มอยู่ข้างกาย สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้น ร่างกายเปื้อนด้วยเลือด
ทราบชื่อผู้ตายคือ นางวันนา อายุ 21 ปี ชาว สปป.ลาว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณหน้าอก 3 รู ทะลุหลังตัดขั้วหัวใจ ที่แขนซ้ายและลำตัวมีหลายรู เสียชีวิตมาแล้ว 4-5 ช.ม. ลักษณะเหมือนถูกยิงแล้วนำร่างผู้เสียชีวิตมานอนที่กระท่อม
ห่างออกไปที่ฝาผนังกระท่อมมุงด้วยสังกะสีมีรอยถูกยิงจนทะลุ 4 รู และพบอาวุธปืนลูกซองยาวเบอร์ 12 ตกอยู่ 1 กระบอก หมวก 1 ใบ และกระป๋องน้ำมันเครื่อง 1 ใบ ตกอยู่ข้างกระท่อม และที่ต้นไม้ใหญ่ห่างออกไปประมาณ 3 เมตร มีรอยถูกยิง 1 รู
โดยมี นายหน่อย อายุ 48 ปี สามีของผู้ตายอยู่ที่เกิดเหตุมองร่างไร้วิญญาณของภรรยา จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมเนื่องจากยังให้การวกวน และเก็บอาวุธปืนลูกซองยาวไว้เป็นหลักฐาน ส่วนร่างผู้เสียชีวิตนำส่งชันสูตรพลิกศพที่ รพ.วังสะพุง
ต่อมา เมื่อเวลา 18.00.00 น. นายหน่อย รับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนยิงภรรยาตัวเอง สาเหตุมาจากตนเองไปกรีดยางกลับมา ภรรยาได้เอาน้ำกรดใส่น้ำให้ตนเองดื่ม จนรู้สึกโมโห จึงคว้าปืนลูกซองยาวเบอร์ 12 ยิงใส่ร่างภรรยาขณะนอนอยู่ที่เปลญวน จนเสียชีวิต จากนั้นอุ้มร่างมานอนทั้งพื้นนกระท่อม และทำตัวเป็นปกติ เหมือนกับว่ามีคนร้ายมายิงภรรยาตนเอง
จากนั้นตำรวจได้พานายหน่อยไปทำแผนประกอบคำรับรับสารภาพที่เกิดเหตุ และแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าคนโดยเจตตนา มีอาวุธปืนในครอบครองที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป