21 เมษายน 2562 ครบรอบวันสถาปนา กรุงเทพมหานคร 237 ปี
วันที่ 21 เมษายน 2562 นับเป็นวันครบรอบ 237 ปี การสถาปนากรุงเทพมหานคร ราชธานีลำดับที่ 4 ของประวัติศาสตร์ไทย
ภายหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2325 จากนั้นได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายราชธานีจากฝั่งธนบุรีมาที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วจัดพิธียกเสาหลักเมืองขึ้นในวันนี้ เสาหลักเมืองมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 75 ซม. สูง 27 ซม. แต่ชำรุดจึงสร้างใหม่ในรัชกาลที่ 4 ทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์สูง 108 นิ้ว ฐานเป็นแท่นกว้าง 70 นิ้ว ตั้งอยู่ภายในอาคารยอดปรางค์
สำนักงานกิจการศาลหลักเมือง กทม.ปี2325
พร้อมทั้งพระราชทานนามพระนครใหม่ว่า "กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์” เป็นชื่อเมืองที่ยาวที่สุดในโลก มีความหมายว่า “พระนครอันกว้างใหญ่ดุจเทพนคร อันเป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต เป็นนครที่ไม่มีใครสามารถรบชนะ มีความงามอันมั่นคงและเจริญยิ่ง เป็นเมืองหลวงที่บริบูรณ์ด้วยแก้ว 9 ประการ น่ารื่นรมย์ยิ่ง มีพระราชนิเวศน์ใหญ่โตมากมาย เป็นวิมานเทพที่ประทับของพระราชาผู้อวตารลงมา ซึ่งท้าวสักกเทวราชพระราชทานให้พระวิษณุกรรมลงมาเนรมิตไว้”
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงเปลี่ยนจาก 'บวรรัตนโกสินทร์' เป็น 'อมรรัตนโกสินทร์' เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2514 รัฐบาลได้รวม จังหวัดพระนคร และ จังหวัดธนบุรี เข้าด้วยกัน เป็นนครหลวงกรุงเทพธนบุรี และในปี 2515 เปลี่ยนชื่อเป็น กรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม จากประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 335 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2515 จัดรูปการปกครองใหม่ โดยรวมกิจการของจังหวัด สุขาภิบาล เป็นลักษณะผสมระหว่างราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เข้าด้วยกัน เป็น กรุงเทพมหานคร (Bangkok Metropolitan Administration) มีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นข้าราชการการเมือง โดยถือเอาวันที่มีผลของประกาศฉบับ 335 คือวันที่ 14 ธันวาคม เป็น "วันสถาปนากรุงเทพมหานคร" ทุกปี
คำขวัญประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร “กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง วัดวังงามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย”