พบตัวแล้ว เด็กหญิงวัย 12 หายจากบ้าน บอกถูกไอ้โม่งจับขังในห้องเรียน 5 วัน

จากกรณี ด.ญ.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ได้หายออกจากบ้านเลขที่ 47/1 ม.5 ต.สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตั้งแต่ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. เวลา 07.00 น. แบบไร้วี่แวว 5 วัน ต่อมานายสมหมาย อายุ 48 ปี ลุงของเด็ก ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิร่วมกตัญญู  ให้ร่วมกันช่วยค้นหา ภายในบ่อน้ำ ป่าหญ้าที่คาดว่าน้องจะไป แต่ก็ไม่พบตัว  พบเพียงจักรยานสีแดงของน้องล้มอยู่ที่ริมถนนกลางทุ่งนาใกล้กับบ้านพัก 

โดยนางทิพมลฑา อายุ 44 ปี มารดาของเด็ก เล่าว่า ลูกสาวพักอาศัยอยู่กับยายในละแวกใกล้เคียง พ่อของน้องติดคุกได้ 5 เดือน ตนเองก็ได้แยกมามีสามีใหม่ ตนมีอาชีพก่อสร้าง ปกติลูกสาวจะแวะเวียนมาหาเรื่อยๆ เนื่องจากบ้านยาย อยู่ไม่ไกลกับแคมป์คนงานที่ตนเองอยู่ แต่มาพอทราบข่าวว่าลูกสาวหายตัวไป ก็เร่งออกมาช่วยกันค้นหา แต่ก็ยังไม่พบ ปกติน้องเป็นเด็กดี ชอบช่วยงานครูและเพื่อนๆที่โรงเรียน  น้องป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่สมอง น้องเคยคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 รอบ เพราะไม่อยากให้ตนไปมีแฟนใหม่

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. (22 เม.ย. 62) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสมหมาย อายุ 48 ปี ลุงของ ด.ญ.หนึ่ง ที่หายตัวไป ว่าได้พบตัวน้องแล้วปลอดภัยดี ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลลาดบัวหลวงเนื่องจากมีความอ่อนเพลีย

นายเกรียงศักดิ์ อายุ 42 ปี น้าของน้องเป็นผู้เลี้ยงดูน้อง เล่าว่า ระหว่างที่ตนกับญาติๆ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย อยู่ระหว่างวางแผนเพื่อทำการค้นหาน้องอยู่นั้น จู่ๆได้มีเพื่อนบ้านตะโกนบอกว่าเจอน้องแล้ว อยู่ที่สุเหร่ากำลังนำตัวมาที่บ้าน จากนั้น ด.ญ.หนึ่ง ก็มาถึงบ้านพอดี ตนและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบพาตัวน้องส่งโรงพยาบาลลาดบัวหลวง ระหว่างทางที่นำ ด.ญ.หนึ่ง ส่งโรงพยาบาลนั้นได้เล่าให้ฟังว่า วันพุธที่ 17 เม.ย. ได้ปั่นจักรยานออกมาจากบ้าน เมื่อมาถึงกลางทางซึ่งเป็นกลางทุ่งนา ได้มีชาย ลักษณะตัวเตี้ยล่ำ ใส่ไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ขับรถจักรยานยนต์แบบหญิงสีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มากระชากตัวไป จากนั้นได้นำไปขังไว้ที่ห้องเรียน จนมาวันหนีได้ปีนหน้าต่างของโรงเรียนหนีออกมา แล้ววิ่งกลับไปที่บ้านจนมาคนมาพบเสียก่อน ระหว่างที่ถูกขังอยู่นั้น ได้ตะโกนร้องขอความช่วยแล้วแต่ไม่มีใครได้ยิน

ด้าน ร.ต.อ.วิกรม คงทอง รองสว.(สอบสวน) สภ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบริเวณจุดที่ ด.ญ.หนึ่ง บอกว่าถูกขังอยู่นั้นพบเป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ใต้ถุนยกสูง ถูกขังอยู่ที่ชั้น 2 ห้อง 6/1 ภายในห้องไม่พบหลักฐานอะไร ร่องรอยการต่อสู้หรือรอยเท้าก็ไม่มี ประตูถูกล็อก หน้าต่างทุกบานถูกปิดจากด้านนอก ที่บันไดทางขึ้นมีไม้ปิดกั้นเอาไว้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ ด.ญ.หนึ่งจะถูกขังเอาไว้ด้านใน หรือไม่ก็อาจจะถูกนำไปขังไว้ที่อื่นแล้วนำตัวมาปล่อยบริเวณนี้ ส่วนรถจยย.และชายใส่ไอ้โม่งที่กระชากตัวไปนั้น ต่อนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างหาข้อมูลว่าเป็นความจริงหรือไม่ หากเป็นความจริงก็ต้องติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป