จับคนร้าย 1 ในทีมสังหารโหด "น้อย ซอย12" อ้างไม่ได้ร่วมลงมือ แค่ยืนดูเพื่อนฆ่า

จับคนร้าย 1 ในทีมสังหารโหด "น้อย ซอย12" อ้างไม่ได้ร่วมลงมือ แค่ยืนดูเพื่อนฆ่า

จับคนร้าย 1 ในทีมสังหารโหด "น้อย ซอย12" อ้างไม่ได้ร่วมลงมือ แค่ยืนดูเพื่อนฆ่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีพบศพอยู่ในคลองราเมศวร์ ตำบลท่าวัง อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช สภาพลอยน้ำคว่ำหน้า ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุเทพ อายุ 48 ปี อาศัยอยู่ในซอย 12 ชุมชนหน้าสถานีรถไฟ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร นายสุเทพจะเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “น้อย ซอย 12” หลังจากชันสูตรพบว่ามีบาดแผลถูกฟันศีรษะ ถูกแทงลำตัวหลายแผลเสียชีวิตมาแล้วมากกว่า 24 ชม.

>> ฆ่าโหดฟันแทง “น้อย ซอย12” ขาใหญ่ประจำชุมชน อุ้มศพโยนทิ้งคลองอำพราง

ล่าสุด (22 เม.ย. 62) นายสมชาย อายุ 33 ปี ชาวอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช จับกุมและคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีร่วมกันกับพวกที่ยังหลบหนีอีก 3 คน ฆาตกรรมนายสุเทพ อายุ 48 ปี แล้วนำศพโยนทิ้งคลองราเมศวร์ ตำบลท่าวัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา โดยนายสมชายถูกคุมตัวมายังซอย 11 ชุมชนหน้าสถานีรถไฟ บ้านนอกโคก ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังจุดเกิดเหตุภายในซอยนี้ และจุดที่นำศพขึ้นรถยนต์ไปทิ้ง

นายสมชาย ยอมรับสารภาพว่า คืนเกิดเหตุนายสุเทพ หรือ น้อย ได้เข้ามาทำร้าย คล้ายกับเมาอะไรบางอย่าง ในขณะที่ตนเองวิ่งหลบหนีไปหาเพื่อนอีก 3 คนที่อยู่ในซอยใกล้กันเพื่อขอความช่วยเหลือ ปรากฏว่าเพื่อนทั้ง 3 รายได้ทำร้ายนายสุเทพจนได้รับบาดเจ็บกลับบ้านไป แต่หลังจากนั้นไม่นานนายสุเทพได้กลับมาพร้อมกับอาวุธทั้งมีดและไม้ ในขณะที่เพื่อนทั้ง 3 คนเตรียมตัวรออยู่แล้ว นายสุเทพสู้ไม่ได้และถูกรุมทำร้ายเสียชีวิต ส่วนตนเองนั้นไม่ได้ร่วมฆาตกรรมนายสุเทพด้วย แต่ด้วยเหตุที่เพื่อนทั้ง 3 คนให้ความช่วยเหลือตน จึงช่วยกันนำศพขึ้นรถของ 1 คนในทีม นำศพไปทิ้ง จากนั้นจึงแยกย้ายกันหลบหนี จนไปถูกจับกุมได้ที่ อ.เมือง จ.สงขลา

 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลของผู้ร่วมก่อเหตุอีก 3 รายแล้ว อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อขออนุมัติหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน ส่วนคืนเกิดเหตุนั้นผู้ต้องหาระบุว่าเป็นคืนวันที่ 18 เมษายน แล้วนำศพไปทิ้ง จนเจ้าหน้าที่มาพบศพในช่วงเช้าของวันที่ 19 เมษายน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook