“หญิง-ตุลย์” ยังไม่ได้ฤกษ์ รอผู้ใหญ่สองฝ่ายพร้อม ค่อยคุยเรื่องแต่งงาน
ถึงแม้จะเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ความรักตอนนี้สุกงอมพร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่แล้ว สำหรับนักแสดงสาว หญิง-รฐา โพธิ์งาม กับแฟนหนุ่มรุ่นพี่ ตุลย์-ตุลยเทพ เอื้อวิทยา จนล่าสุดมีกระแสข่าวออกมาว่าทั้งสองได้ฤกษ์แต่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือช่วงปลายปีที่ใกล้จะถึงนี้แน่นอน
งานนี้ พอมีโอกาสได้เจอ หญิง รฐา และ ตุลย์ ตุลยเทพ จึงถือโอกาสให้คู่รักเคลียร์ถึงประเด็นดังกล่าวทันที โดยทั้งคู่ได้เผยว่า ยังไม่ได้มีฤกษ์แต่งอะไรเลย เนื่องจากตอนนี้รอผู้ใหญ่ทางครอบครัวของฝ่ายชายเข้าไปคุยกับ แม่น้อย โพธิ์งาม อย่างจริงจังก่อน และหากมีอะไรคืบหน้าจะรีบมาบอกทันที
ความคืบหน้าของฤกษ์แต่งไปถึงไหนแล้ว มีกระแสข่าวออกมาว่าอาจเป็นปลายปีนี้ ?
ตุลย์ : “ณ ตอนนี้ยังไม่มีฤกษ์ครับ คือผมได้เรียนกับทางคุณพ่อคุณแม่ไว้แล้ว พอดีท่านบอกว่าให้รอจังหวะที่เขาพร้อม แล้วเดี๋ยวเขาจะไปดำเนินการเอง”
มีการสู่ขออย่างเป็นทางการหรือยัง ?
หญิง : “ยังค่ะ ยัง”
ตุลย์ : “ต้องรอผู้ใหญ่ครับ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ คือบ้านผมต้องไปคุยกับทางบ้านของน้องหญิงก่อน”
ตอนนี้ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มีใครดูฤกษ์ให้ใช่ไหม ?
ตุลย์ : “ผมว่าต้องคุยกันก่อน แล้วจากนั้นถึงค่อยไปดูฤกษ์ครับ”
แต่เราทั้งคู่พร้อมแล้วใช่ไหม ?
ตุลย์ : “เราคุยกัน เราเป็นเด็กก็มีความคิดในส่วนหนึ่ง ส่วนเรื่องอนุญาตก็ต้องรอทางผู้ใหญ่ตัดสินใจ”
งงไหมที่อยู่ดีๆ มีข่าวออกมาว่าได้ฤกษ์แต่งเรียบร้อยเป็นช่วงปลายปีนี้ ?
หญิง : “บอกวันนี้เลยแล้วกันว่ายังไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นนะคะ ส่วนเรื่องของเราก็คุยกันอยู่ตลอด เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรคืบหน้าเดี๋ยวค่อยมาบอกแล้วกัน”
แอบกดดันบ้างไหม เพราะคนก็ลุ้นอยากให้คู่เราได้แต่งงานเร็วๆ ?
ตุลย์ : “ตอนนี้ชินแล้วอ่ะ เฉยๆ (หัวเราะ)”
หญิง : “มันก็เป็นเรื่องปกติของคู่รักดาราหลายๆ คู่ ที่มักจะโดนถามถึงประเด็นนี้อยู่แล้ว ก็ชินแล้วนะ”
หรืออาจเพราะควงกันไปเข้าวัดทำบุญ คนเลยเข้าใจผิดว่าไปดูฤกษ์แต่งมา ?
ตุลย์ : “ก็ไม่ค่อยได้เข้าวัดบ่อยนะครับ”
2 ปีที่ผ่านมา โอเคหรือยังกับคู่ของเรา ถือว่าลงตัวไหม ?
ตุลย์ : “มันพูดยากครับ 2 ปี จะบอกว่าเร็วก็เร็ว จะบอกว่านานก็นาน แต่ยังมีอะไรหลายๆ อย่างที่คนเราคบกันก็ต้องเรียนรู้กันไป ยังมีบางอย่างที่เรายังไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของทั้งคู่ คงต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ซึ่งโอกาสที่จะต้องเริ่มต้นชีวิตคู่ ผมว่าให้มันเป็นไปตามขั้นตอนดีกว่า”
ไม่น่าเกินปีหน้าไหม ?
หญิง : “โห ตอบไม่ได้หรอกค่ะ ยังพูดไม่ได้จริงๆ”
ทางครอบครัวของตุลย์เอง มีได้นัดวันเพื่อจะเข้าไปคุยกับครอบครัวของหญิงหรือยัง ?
ตุลย์ : “ยังครับ แต่เราก็บอกไปแล้ว ผมว่าถ้าทางผู้ใหญ่พร้อมเดี๋ยวก็คงบอกมาอีกที”
ทางแม่น้อย โพธิ์งาม มีเร่งๆ หรือถามๆ บ้างไหม ?
หญิง : “แม่ก็บอกว่าแล้วแต่ทางฝั่งพี่ตุลย์เลยค่ะ เราไม่ได้ไปกดดันอะไรเขา จริงๆ พอโดนถามเยอะๆ หญิงก็รู้สึกกดดันแทนเขานะ เพราะเขาเป็นผู้ชาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นระหว่างเราได้ดูแลกันมา ไม่ได้มีปัญหาอะไรเยอะแยะ ถ้ามันไปแบบนี้ได้เรื่อยๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ก็คงไม่มีอะไรที่มันยุ่งยาก”
2 ปีผ่านมา ความหวานมากกว่าเดิมไหม หรือยังคงที่เท่าเดิม ?
ตุลย์ : “เหมือนเดิมครับ (ยิ้ม)”
หญิง : “มันก็หวานด้วย เหวี่ยงด้วยบางที (หัวเราะ) ช่วงแรกๆ จะเหมือนเป็นปัปปี้เลิฟเนอะ พอผ่านมาจุดหนึ่งเราได้เห็นสิ่งที่ต้องปรับต้องจูนก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ ต่อให้วันหนึ่งใช้ชีวิตคู่กันไป มันก็ต้องปรับต้องจูนกันอยู่ดี ตอนนี้มันอยู่ในขั้นที่เป็นเรื่องของความจริงแล้ว ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันเหมือนตอนแรกๆ ซึ่งเราก็ยังอยู่ด้วยกันได้ ยังยอมรับในข้อเสียและข้อดีของกันและกันได้”
มีงอนกันบ้างไหม ?
ตุลย์ : “ไม่งอนนะครับ จะเป็นอารมณ์เหวี่ยงมากกว่า เพราะทั้งคู่เป็นคนขี้เหวี่ยง
หญิง : “เราเป็นคนขี้รำคาญทั้งคู่ อย่างหญิงเป็นคนชอบพูดอะไรซ้ำๆ แบบ พี่ไปไหนนะ พี่จอดรถชั้นไหนนะ ถ้าเราถามเยอะๆ เขาก็จะบอกเราว่า พี่เคยบอกหญิงแล้ว หญิงต้องมีสติ หญิงต้องฟัง อะไรแบบนี้ ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเขาเองก็มีอารมณ์หงุดหงิดของเขา บางทีเขาก็จะเงียบ ไม่พูดอะไรเลย หญิงก็บอกว่า พี่ต้องพูดนะ พี่ต้องพูดว่าพี่คิดอะไรอยู่”
แล้วเราต้องปรับจูนกันยังไง ?
หญิง : “ต้องคุยกันค่ะ เรามีกฎว่าในหนึ่งวันเราจะไม่ทะเลาะกันจนถึงขั้นไม่คุยกัน อย่างน้อยต้องเคลียร์กัน”
ตุลย์ : “ต้องไม่โกรธข้ามวัน”
ไม่เคยทะเลาะกันหนักๆ ?
หญิง : “ไม่มีเลยค่ะ”
ตุลย์ : “เราต้องผ่านจุดนั้นไปก่อน ถึงจะข้ามด่าน อัพเลเวลไปได้”
ใครขี้เหวี่ยงกว่ากัน ?
ตุลย์ : “พอๆ กัน (หัวเราะ)”
เวลาทะเลาะใครง้อใครก่อน ?
ตุลย์ : “คนผิดครับ คนผิดต้องง้อ”
หญิง : “ใช่ค่ะ เราต้องยอมรับ อย่างล่าสุดหญิงผิด (หัวเราะ) ก็ง้อ แต่ก็โชคดีที่เราเป็นคนกล้าพูดขอโทษทั้งคู่ ไม่มีทิฐิอะไรกัน”
ตอนนี้จะแต่งงานแล้ว อารมณ์มันเปลี่ยนไปไหม ?
ตุลย์ : “ตอนนี้ยังไม่เปลี่ยนครับ ถ้าถึงจุดที่แต่งงานเข้าไปอยู่ด้วยกันแล้ว อาจจะเปลี่ยน อาจจะต้องปรับตัว แต่ตอนนี้ปรับตัวกันไปเรื่อยๆ เรียนรู้กันไป”
เคยคิดภาพบ้างไหมว่าคู่เราแต่งงานกันไปจะเป็นยังไง ?
ตุลย์ : “คู่เราก็ไม่ได้หวาน ก็คิดว่าคงเป็นเหมือนทุกวันนี้แหละครับ”
หญิง : “คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพราะจริงๆ เราเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน เราไม่ได้เป็นคู่ที่สวีท ทำเซอร์ไพรส์กันตลอดเวลา”
ตอนเพื่อนๆ รู้ข่าวว่าเราจะแต่งงานเขาว่าอย่างไรบ้าง ?
หญิง : “ก็มีคนถามๆ เยอะ ก็จะบอกเลยว่ายังไม่มีอะไรนะ ใจเย็นๆ (หัวเราะ)”
ตุลย์ : “ถ้ามีเดี๋ยวบอกแน่นอนครับ”
ตุลย์แอบถามบ้างหรือยังว่าสินสอดแพงไหม ?
ตุลย์ : “แม่บอกแม่เขาไม่เอา (หัวเราะ)”
หญิง : “โห (หัวเราะ) พี่ไปเคลียร์กับแม่เอง เรื่องนี้เราจะไม่ยุ่ง”
เกริ่นกับแม่เรื่องสู่ขอหรือยัง ?
ตุลย์ : “ก็ยังไม่ได้บอกเป็นทางการขนาดนั้น มีแค่คุยกับแม่น้อยว่า ผมคุยกับพ่อแม่ผมแล้วครับ”
หญิงถามแม่ไหมว่าเรียกสินสอดแพงไหม ?
หญิง : “แม่พูดอยู่ตลอดว่าอยู่กับใครมีความสุขก็เป็นเรื่องความสุขของหญิง ถ้าหญิงมีความสุขแม่ก็มีความสุข เรื่องของตัวเลขไม่ได้สำคัญขนาดนั้น อยู่ที่ว่าเขาจะเป็นคนที่จะเป็นผู้นำเราได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่าค่ะ”
>>ลิขิตรัก "หญิง" กับ "ตุลย์" 8 ปีกลับมาเจอกันใหม่ "แม่น้อย" ประทับใจดีสม่ำเสมอ
>>"หญิง-ตุลย์" สวีทหวานบนภูเขาสูง มองพระอาทิตย์ตก ราวกับฉากขอแต่งงาน
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ