เปิบ "เนื้อเก้ง" ให้โลกได้รู้ ชุดพญาเสือตามสืบจากคลิป บุกจับได้ถึงบ้าน
หนุ่มอยุธยาคึกคะนองโชว์เปิบเมนูเด็ด "จุ๊เนื้อเก้งคาโครง" แชร์ลงเว็บไซต์ยูทูป ชุดพญาเสือตามสืบอยู่เป็นเดือน ก่อนบุกจับได้ถึงบ้าน เจ้าตัวอ้างไม่รู้ว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) หน่วยปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อปราบปรามการกระทำความผิด จากกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พบการชำแหละเนื้อเก้ง ซึ่งจัดเป็นสัตว์ป่า โดยชำแหละเนื้อ จิ้มน้ำจิ้ม และกินแบบถ่ายคลิปไปด้วย
โดยในคลิปวิดีโอระบุว่าเป็นการกินเมนู "จุ๊เนื้อเก้งคาโครง" โดยผู้กระทำความผิดยังบันทึกคลิปวีดีโอขณะก่อเหตุ และได้โพสต์บนเว็บไซต์ยูทูป พร้อมระบุชื่อคลิปว่า “จุ๊เนื้อเก้งคาโครงกับทีมงาน แซบๆ ครับผม” โดยโพสต์แชร์เอาไว้ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้จากการตรวจสอบหลักฐานคลิปวีดีโอดังกล่าว ทำให้เชื่อได้ว่าพิกัดที่กระทำความผิดเป็นบริเวณบ้านหลังหนึ่งใน ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรายงานให้ พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายธัญญาเนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับทราบ
จากนั้นชุดพญาเสือจึงได้สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการด้านสัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี, หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 3 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง), เจ้าหน้าที่สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และกำนัน ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ภายใต้การอำนวยการของ ผอ.ศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ หน.หน่วยพญาเสือ และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ที่ปรึกษาหน่วยฯ พญาเสือ
นายพนัชกร โพธิบัณฑิต เจ้าหน้าที่ประจำชุดพญาเสือ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด บริเวณหลังบ้านที่ทำการชำแหละ พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เป็นขนเก้ง รวมทั้งอุปกรณ์ในการกระทำความผิดที่เห็นในคลิปวิดีโอ ประกอบด้วยมีดและถุงพลาสติก
นายปัญญา บุคคลที่ปรากฎในคลิปได้ให้การยอมรับว่า ซื้อเก้งมาจาก จ.สระบุรี ในราคา 8,400 บาท เพื่อชำแหละเลี้ยงคนงาน โดยไม่ทราบว่าเข้าข่ายเป็นความผิด ทั้ง เก้ง หรือ ฟาน จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 198 ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
เมื่อรวบรวมหลักฐานได้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันจับกุม นายปัญญ ในฐานความผิดมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และดำเนินการตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และอุปกรณ์การกระทำความผิด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางปะอิน สาขาสินทิวาธานี สำหรับซากสัตว์ป่าคุ้มครองจะส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ศูนย์ปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ต่อไป