นาทีนองเลือด พ่อบ้านไล่ฟันเพื่อนร่วมงานคาโรงแรม ฉุกคิดสำนึกผิดช่วยยื้อชีวิต

หัวหน้าพ่อบ้านโรงแรมฉุนเดือด! วิ่งไล่ฟันเพื่อนร่วมงานสาวใหญ่ดับคาโรงแรม ก่อนสำนึกผิดช่วยปั๊มหัวใจยื้อชีวิต อ้างอดทนมานาน ทะเลาะกันบ่อยและถูกท้าทาย

กล้องวงจรปิดที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ ได้บันทึกภาพเหตุการณ์หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีมาที่หน้าประตูโรงแรม โดยมีชายรูปร่างผอมสูงถือมีดวิ่งไล่ตามมา จากนั้นทั้ง 2 ได้วิ่งไล่กันเข้าไปภายในโรงแรม และไปหยุดที่ตรงหน้าลิฟต์ ก่อนจะใช้มีดยาวแทงเข้าที่บริเวณหน้าอกขวาและฟันใส่ศีรษะอีกครั้ง ก่อนที่เพื่อนร่วมงานที่เห็นเหตุการณ์จะเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน

ขณะที่หญิงผู้เคราะห์ร้ายถูกแทงจนได้รับบาดเจ็บอยู่ เพื่อนร่วมงานประคองให้นั่งลง แต่ไม่นานหญิงสาวทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียเลือดมาก ทำให้ชายผู้ก่อเหตุเกิดกลับใจ และเข้ามาช่วยปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตเอาไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเดินทางมาถึงและนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ แต่หญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตลงเสียก่อน เพราะถูกแทงเข้าที่หน้าอกด้านขวา ทะลุปอดและกะบังลม

หลังเกิดเหตุ นายนาวิน อายุ 47 ปี ผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่โรงแรมแล้ว ก่อนถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ขณะที่ พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ศิริเดชอนันต์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง

จากการสอบสวน นายนาวิน รับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุใช้มีดแทงและฟัน นางจันทร์เพ็ญ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากบันดาลโทสะจนเกิดอารมณ์ชั่ววูบ โดยตนทำงานอยู่ที่โรงแรมดังกล่าวมานานกว่า 4 ปีแล้ว ในตำแหน่งหัวหน้าพ่อบ้าน ขณะที่ นางจันทร์เพ็ญ เป็นลูกน้องทำงานในตำแหน่งแม่บ้าน

ที่ผ่านมาตนมักจะมีปากเสียงทะเลาะกับนางจันทร์เพ็ญบ่อยครั้ง เพราะปัญหาเรื่องการทำงาน ซึ่งตนก็พยายามใจเย็น ระงับสติอารมณ์ แม้ทุกครั้งนางจันทร์เพ็ญที่มีนิสัยนักเลง พูดจาท้าตีท้าต่อยกับตนมาเสมอ ก็พยายามหลบเลี่ยงมาตลอด

ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (25 เม.ย.) นายนาวิน และ นางจันทร์เพ็ญ มีปากเสียงกันอีกครั้ง ทำให้นายนาวินบันดาลโทสะ เพราะถูกนางจันทร์เพ็ญด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงวิ่งไปหยิบมีดในครัวออกมาไล่ฟันนางจันทร์เพ็ญจนได้รับบาดเจ็บ โดยหลังก่อเหตุก็ได้เข้าไปช่วยอุ้มนางจันทร์เพ็ญและช่วยปั๊มหัวใจจนกระทั่งกู้ภัยเดินทางมาถึง

นายนาวิน กล่าวว่า ปกติตนเองเป็นคนใจเย็น แต่ก็ยอมรับว่าที่ลงมือไปเพราะความโกรธและอารมณ์ชั่ววูบ ไม่มีเจตนาจะทำร้ายร่างกายนางจันทร์เพ็ญให้ถึงตาย ยอมรับกับสิ่งที่ทำลงไปและรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พ.ต.อ.สุคนธ์ กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะมือมีดหลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ส่วนปมเหตุเกิดจากความขัดแย้งในที่ทำงานซึ่งสะสมมานานกว่า 4 ปี ส่วนอาวุธมีดผู้ต้องหาไม่ได้เตรียมมาแต่เป็นมีดที่อยู่ในครัวของโรงแรม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนผู้ต้องหาจะให้การว่า เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ หรือ บันดาลโทสะก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามพยานหลักฐานที่มี

รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ยังได้ฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนทั่วไป การอยู่ร่วมกันในสังคมต้องรู้จักให้อภัยและผ่อนปรนกัน เพราะสภาพอากาศบ้านเราค่อนข้างร้อน เมื่อกระทบกระทั่งกันก็อาจใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาจนนำมาซึ่งความสูญเสีย ทั้งผู้ที่ลงมือก่อเหตุที่ต้องชดใช้กรรมที่ก่อ ส่วนผู้สูญเสียก็สร้างความเสียใจให้กับคนข้างหลัง