“สี จิ้นผิง” พบ “อองซาน ซูจี” ถกสัมพันธ์จีน-เมียนมา ชื่นชมความร่วมมือ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วานนี้ (24 เม.ย.) สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้พบปะกับนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา ก่อนการประชุมหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (BRF) ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นในกรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย. นี้
สีกล่าวว่า “ด้วยมิตรภาพฉันพี่น้องระหว่างจีนกับเมียนมา จีนยินดีผลักดันมิตรภาพเก่าแก่ของทั้งสองฝ่าย เพิ่มพูนความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วม และเดินหน้าความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง”
“เนื่องในวาระการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-เมียนมาจะครบรอบ 70 ปีในปีหน้า ทั้งสองฝ่ายควรมีปฏิสัมพันธ์อย่างแข็งขันในทุกระดับ รวมถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและวัฒนธรรม”
นอกจากนั้นสีกล่าวว่า “ทั้งสองฝ่ายควรให้ความสำคัญกับความร่วมมืออันเป็นรูปธรรมในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อเสริมสร้างแรงสนับสนุนมิตรภาพระดับทวิภาคีจากสาธารณชนยิ่งขึ้น”
“จีนสนับสนุนเมียนมาในการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดจนยกย่องความพยายามของรัฐบาลเมียนมา ที่เดินหน้ากระบวนการสร้างความปรองดองและสันติภาพภายในประเทศ”
“จีนพร้อมทำงานร่วมกับเมียนมาเพื่อปกป้องรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของพื้นที่ชายแดนจีน-เมียนมา และรับรองความปลอดภัยและความเป็นระเบียบของพลเรือนตามแนวชายแดน”
“จีนชื่นชมรัฐบาลเมียนมาที่ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อการปฏิบัติงานอันเกี่ยวข้องกับแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งมีนางอองซาน ซูจี เป็นประธานดูแล”
“จีนยินดีจะส่งเสริมความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกับเมียนมาภายใต้กรอบการทำงานของแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และเร่งการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา เพื่ออำนวยประโยชน์แก่ประชาชนจีนและเมียนมา”
ด้านนางอองซาน ซูจี กล่าวว่า ด้วยฐานะประเทศเพื่อนบ้านผู้ใกล้ชิดและเป็นมิตร เมียนมาขอบคุณความพยายามของจีนในการสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาของเมียนมา
“เมียนมาได้สนับสนุนแผนริเริ่มฯ มาตั้งแต่แรกเริ่มและกระตือรือร้นขยับขยายความร่วมมือกับจีน โดยเชื่อว่าการร่วมสร้างแผนริเริ่มฯ จะนำไปสู่ความอยู่ดีกินดียิ่งขึ้นของโลกและภูมิภาค เพิ่มพูนมิตรภาพและความร่วมมือเมียนมา-จีน”
“เมียนมายินดีทำงานร่วมกับจีนเพื่อปกป้องรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพของพื้นที่ชายแดน และชื่นชมจีนที่ยืนหยัดตามวัตถุประสงค์และหลักการกฎบัตรสหประชาชาติ รวมถึงประสงค์จะผลักดันความร่วมมือกับจีนในกิจการระดับพหุภาคีด้วย”