คาหนังคาเขา-รวบหนุ่มไทยรับจ้างเดิน “ยาไอซ์” ล็อตโตมูลค่า 9 ล้านให้นายทุนลาว

ตำรวจกองปราบฝังตัวในพื้นที่สะกดรอยตามกลิ่นแก๊งค้ายาเสพติดชาวลาว พร้อมสนธิกำลังทหาร ตำรวจน้ำ ตำรวจในพื้นที่และเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย รวบสมุนคนไทยที่รับส่งยาไอซ์ 3 กิโลกรัม มูลคากว่า 9 ล้านบาท

(25 เม.ย. 62) ที่สถานีตำรวจน้ำจังหวัดบึงกาฬ นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ แถลงข่าวการจับกุม นายณัฐพล หรือ เหน่ง อายุ 34 ปี ภูมิลำเนา ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 3 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 9 ล้านบาท รถยนต์ 1 คันและจักรยานยนต์ 1 คัน

ข้อหา “ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกับพวกที่หลบหนีพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย”

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกลางดึกคืนผ่านมา พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สืบทราบว่า มีการเคลื่อนไหวของแก๊งค้ายาเสพติดชาวไทยและชาวลาวในเขตพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ

จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ประทีป ชูศรี สว.กก.3 บก.ป.ร.ต.อ.โกญจนารถ ชาวยามกา รอง สว.ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนมีความชัดเจนว่าแก๊งค้ายาเสพติดชาวลาวเครือข่ายของ “ท้าวบอน” หรือ แดง (ไม่ทราบนามสกุล) ราษฎรเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว จะมีการส่งมอบยาไอซ์จำนวนมากบริเวณถนนหมายเลข 212 พื้นที่บ้านโคกก่อง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ 

จึงได้สนธิกำลังกับ น.ต.นเรศ ฉิมขันธ์ ทหารชุด ศรภ.บก.ทท.น.ต.นเรศ บุญปัญญา กอ.รมน.บึงกาฬ พ.ต.ต.ศิรโรดม สนุ่นดี สว.ตำรวจน้ำบึงกาฬ ร.ต.แดง พฤกษชาติ ผบ.ร้อย ทพ.2109 น.ท.ชำนาญ บัวจูม หัวหน้าสถานีเรือบึงกาฬ พ.ต.ท.บดินทร์ ร้อยพรหมมา รอง ผกก.ตม.บึงกาฬ  พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบึงกาฬ วางแผนจับกุม

กระทั่งพบชายต้องสงสัยขี่จักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีแดง ทะเบียน จ.บึงกาฬ วิ่งผ่านสามแยกไป อ.ศรีวิไล จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจค้น

แต่คนขี่พยายามขับหลบหนี จึงถูกสกัดจับตัวได้ทราบชื่อ นายณัฐพล หรือ เหน่ง อายุ 34 ปี ในถุงพลาสติกสีชมพู ที่ถือมาพบเป็นวัตถุก้อนใหญ่ แกะออกดูเป็นยาไอซ์ 3 ก้อน น้ำหนักก้อนละ 1 กิโลกรัม รวมเป็น 3 กิโลกรัม มูลค่าซื้อขายในท้องตลาดผู้เสพประมาณ 9 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง

จากการสอบสวน นายณัฐพล ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชายชาวลาวไม่ทราบชื่อ ให้นำยาไอซ์ไปส่งให้ลูกค้าที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง โดยไม่บอกว่าจะได้ให้ค่าจ้างเป็นเงินกี่บาท โดยขอให้ส่งถึงมือผู้รับแล้วจึงจะโอนเงินค่าจ้างให้เป็นเงินหลายหมื่น

จากนั้นตนจึงขับรถยนต์ อีซูซุ แค็บ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน จ.บึงกาฬ ออกจากบ้านไปรับยาไอซ์เพื่อไปส่งลูกค้า แต่เมื่อไปถึงมีการนัดแนะเปลี่ยนให้ไปส่งอีกที่หนึ่ง จึงได้ยืมรถจักรยนต์เจ้าของร้านคาราโอเกะ เพื่อขี่ไปส่งยาไอซ์ตามนัดหมาย แต่มาถูกสกัดจับกุมได้เสียก่อน จึงถูกคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ดำเนินคดีต่อไป