ปลานับแสนลอยตายเต็มสระน้ำวัดดัง พระโพสต์ขอกำลังโกยปลาเน่า 5 ตัน
พระโพสต์เฟซบุ๊กขอกำลังญาติโยม หลังปลาสระน้ำวัดน็อกน้ำตายเป็นแสนตัว รวมน้ำหนักมากกว่า 5 ตัน ต้องรีบดำเนินการเก็บซาก คาดเพราะอากาศร้อนจัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เณรประจำวัดหนองคราม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้โพสต์ภาพปลาตายลอยเป็นแพ พร้อมกับระบุข้อความ ขอความช่วยเหลือจากญาตโยมที่ว่าง เนื่องจากทางวัดต้องการกำลังคนมาช่วยกันตักปลาที่ตายออกจาสระน้ำโดยด่วน ทำให้มีการกระจายข่าวออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ วัดสิทธิสังคาราม หรือ วัดหนองคราม พบว่าปลานิลและปลาอื่นๆ นับแสนตัว ลอยตายเต็มสระน้ำของวัด ซึ่งตรงกลางมีวิหารพระหลวงพ่อโสธรตั้งอยู่กลางสระน้ำ เป็นปลาตัวใหญ่น้ำหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัม อายุประมาณ 4 ปี ส่งกลิ่นเหม็นเน่าและเหม็นคาวปลาคละคลุ้งไปทั่ว
ทั้งนี้มีพระภิกษุ สามเณร และแม่ชีของวัด กำลังช่วยกันใช้อุปกรณ์ตักปลาที่ลอยตายอยู่ภายในสระน้ำ โดยมีญาติโยมรอบๆวัดหนองคราม และที่อยู่อำเภอใกล้เคียงที่ทราบข่าวจากทางเฟซบุ๊ก ได้เดินทางมาช่วยเหลือทางวัดในการตักปลาตายออกจากสระน้ำอีกจำนวนหนึ่ง
พระปลัดสุชาติ สุชาโต พระลูกวัดหนองคราม กล่าวว่า สระน้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ระดับน้ำลึกประมาณ 5-6 เมตร มีปลาที่ชาวบ้านนำมาปล่อยเพื่อทำบุญอยู่หลายชนิด รวมกันประมาณ 8 ตัน ซึ่งปลาที่ตายส่วนใหญ่เป็นปลานิลขนาดใหญ่ ปลาคราฟ ปลาบู่ ปลาเก๋า และอื่นๆ ส่วนปลาที่ยังไม่ตาย เป็นพวกปลาดุก ปลาสวาย และปลาแรด
ทั้งนี้เริ่มสังเกตว่ามีปลาเริ่มลอยตายขึ้นมาเล็กน้อยตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนจะตายลอยอืดขึ้นเป็นจำนวนมากตั้งแต่เมื่อวานนี้ และวันนี้เพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ส่วนน้ำภายในสระจากที่เคยใสเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม
ทางวัดจึงให้สามเณรที่วัดโพสภาพและข้อความขึ้นเฟซบุ๊ก เพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือจากญาตโยม มาช่วยเหลือพร้อมกับนำสวิงมาช่วยกันตักปลาออกจากสระน้ำ ซึ่งเมื่อเช้าที่ผ่านมา มีชาวบ้านใจดีช่วยนำรถแบ็กโฮมาขุดหลุมให้ เพื่อนำปลาที่ตายแล้วใส่ลงไปในหลุมสำหรับฝังกลบ ซึ่งจะต้องรีบตักปลาเน่าออกให้หมดโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือปลาที่ยังไม่ตายอีกเป็นจำนวนมากที่ยังอยู่ภายในสระน้ำ
พระปลัดสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อปี 2558 เคยเกิดเหตุการณ์ปลาตายลอยเป็นแพแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เบื้องต้นสาเหตุปลาตายนั้นคาดว่าน่าจะเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด กระทบต่อปริมาณออกซิเจนในน้ำมีปริมาณน้อยลงแม้ว่าทางวัดจะมีการช่วยตีน้ำเพิ่มออกซิเจนแล้วแต่ไม่เป็นผล ประกอบกับน้ำเริ่มเน่าจากสาเหตุหลัก ที่มีญาตโยมได้นำอาหารเม็ดชนิดสีชมพู จำนวน 10 กระสอบมาเทใส่สระน้ำ แต่ปลาไม่กิน ทำให้น้ำเน่า
ซึ่งอาหารเม็ดดังกล่าวเป็นอาหารคนละชนิดกับที่ทางวัดนำมาเลี้ยงปลา ประกอบกับอากาศร้อนจัดทำให้อาหารเม็ดเน่าเป็นแก๊ส ทำปลาขาดอากาศหายใจ น๊อคตายจำนวนมากดังกล่าว จึงต้องรีบตักซากปลาเน่าออกจากสระโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะพยายามตักออกให้หมดภายในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีปลาตายในครั้งนี้ประมาณ 5 ตัน และรีบดูดน้ำเสียออก ทำความสะอาดสระแล้วเปลี่ยนน้ำใหม่ เพื่อช่วยเหลือปลาที่ยังไม่ตาย อีกประมาณ 3-4 ตัน แต่หากปล่อยทิ้งไหว้ ปลาอาจจะตายยกสระก็เป็นได้
ทั้งนี้ พระ เณร และญาติโยมจะช่วยกันตักปลาออกทั้งหมด เพื่อนำไปใส่ในหลุมดินขนาดใหญ่ เพื่อฝังกลบโดยจะใช้ปูนขาวโรยทับเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อโรค โดยคาดว่าวันนี้คงจะสามารถตักปลาที่ตายขึ้นมาได้ทั้งหมด แต่ก็ต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าจะมีปลาในสระตายขึ้นเพิ่มอีกหรือไม่