ธนาธรโชว์ใบสั่ง! หลักฐานซิ่งเข้ากรุงเทพฯ มาโอนหุ้น 8 ม.ค. ขู่ฟ้องกลับ กกต.

ธนาธรโชว์ใบสั่ง! หลักฐานซิ่งเข้ากรุงเทพฯ มาโอนหุ้น 8 ม.ค. ขู่ฟ้องกลับ กกต.

ธนาธรโชว์ใบสั่ง! หลักฐานซิ่งเข้ากรุงเทพฯ มาโอนหุ้น 8 ม.ค. ขู่ฟ้องกลับ กกต.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์รูปลงเฟซบุ๊กเมื่อช่วงดึกวานนี้ (29 เม.ย.) เป็นรูปใบสั่งการใช้ความเร็วเกินกฎหมายที่ตนได้รับถึง 3 ใบ จากการเดินทางออกจาก จ.บุรีรัมย์ เข้ามายังกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8 ม.ค. เพื่อมาโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา

งัดใบสั่งโชว์หลักฐาน

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่รายนี้ ระบุว่า รถตู้ยี่ห้อฮุนได สีขาว ทะเบียน 7xx 8893 กรุงเทพมหานครที่ตนใช้เดินทางไปขณะเดินสายหาเสียงที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อต้นเดือน ม.ค. ปีนี้ ได้รับใบสั่งถึง 3 ใบ ในช่วงวันที่ 7-8 ม.ค. โดยใบที่ 2 และ 3 สามารถบอกได้ชัดเจนว่าตนเดินทางออกจาก จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงสายวันที่ 8 ม.ค. และมาถึงกรุงเทพมหานครในช่วงบ่ายวันเดียวกันจริง

"รูปที่ 2 ใบสั่งตามรูปแสดงให้เห็นว่าผมอยู่ที่ถนนทางหลวงที่ 24 กม. ที่ 107-109 อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ วันที่ 8 มกราคม เวลา 11.41 น. รูปที่ 3 ใบสั่งตามรูปแสดงให้เห็นว่าผมอยู่ที่ถนนกาญจนาภิเษก กม. 5 (ขาเข้า) ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี วันที่ 8 มกราคม เวลา 14.45 น." นายธนาธร ระบุ

แนบต้นขั้วเช็คโอนหุ้น

นอกจากนี้ นายธนาธร ยังแนบรูปต้นขั้วเช็คมาในโพสต์เดียวกัน 

โอนหุ้นสำคัญต่อ "ธนาธร" อย่างไร

สาเหตุที่นายธนาธรนำใบสั่งมายืนยันหลักฐานว่าตนเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์ มายังกรุงเทพมหานคร เป็นเพราะมีผู้โจมตีนายธนาธรเกี่ยวกับการโอนหุ้นบริษัทสื่อชื่อ วี-ลัค มีเดีย ให้กับมารดา นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าไม่ได้เกิดขึ้นจริง โดยอ้างว่าบ่ายวันที่ 8 ม.ค. นายธนาธรยังปราศรัยหาเสียงที่ จ.บุรีรัมย์

ส่วนการโอนหุ้นที่มีการพูดถึงในช่วงหลัง มีความสำคัญมากๆ ต่อนายธนาธร เพราะมาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ระบุไว้ว่า ผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้นั้น ต้องไม่มีหุ้นในบริษัทสื่อมวลชน หากนายธนาธรยังคงถือหุ้นอยู่ เท่ากับนายธนาธรจะลงสมัคร ส.ส. ไม่ได้ เพราะฉะนั้นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่รายนี้จึงต้องโอนหุ้นของตนไปให้ผู้อื่น เพื่อเลี่ยงข้อห้ามนี้

ถึงอย่างนั้น นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ก็ยังไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้พิจารณาตัดสิทธิ์ลงรับสมัคร ส.ส. ของนายธนาธร เพราะเห็นว่าในวันลงสมัคร นายธนาธรยังคงถือหุ้นบริษัท วีลัค-มีเดีย จำกัด และเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา กกต. ก็มีมติแจ้งข้อกล่าวหาว่านายธนาธรถือหุ้นบริษัทสื่อตามที่นายศรีสุวรรณร้องเรียน ซึ่งฝั่งนายธนาธรเผยว่า ก่อนมีมติออกมา กกต. ไม่เคยเชิญตนไปชี้แจงเลยสักครั้ง

>> เลือกตั้ง 2562: ธนาธรไม่รอด! กกต. มีมติแจ้งข้อหา เหตุถือหุ้นบริษัทสื่อ ให้เวลาแจง 7 วัน

ขู่ฟ้องกลับ กกต. ตั้งข้อหาเลื่อนลอย

นายธนาธร ระบุในโพสต์เดียวกันว่า จากหลักฐานเหล่านี้ ตนจึงคิดว่าการแจ้งที่ กกต. แจ้งข้อกล่าวหาตน ว่าตนไม่มีคุณสมบัติลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เพราะตนถือหุ้นในบริษัทสื่อ จึงไม่มีมูล ไม่มีหลักฐานเพียงพอ จึงเรียกร้องให้ กกต. ทำงานอย่างเป็นอิสระและเที่ยงธรรม ไม่อย่างนั้น ตนอาจใช้สิทธิ์ฟ้องร้องว่า กกต. ทำหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เกิดความเสียหายต่อตน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 

"ข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นที่ผมต้องไปชี้แจงพรุ่งนี้ไม่มีมูล ไม่มีใครมีหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์โต้แย้งหลักฐานที่เรานำเสนอได้ ผมไม่ได้ถือหุ้นสื่อในวันที่ผมสมัคร ส.ส. และ กกต. ไม่มีอำนาจในการตั้งข้อกล่าวหาและตรวจสอบผมในประเด็นนี้ ผมหวังว่า กกต. จะเป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริง เป็นเสาหลักที่เข้มแข็งในการดำเนินการผลักดันสังคมให้กลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย
.
หาก กกต. ใช้อำนาจโดยมิชอบ สุ่มเสี่ยงที่จะมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 157 ผมขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมายกับ กกต. ต่อไป" นายธนาธร โพสต์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook