ตำรวจดวงแข็งโจรยิงไม่ตาย ปลิดชีพตัวเองหนีโรครุมเร้า ทรมานฟอกเลือด 8 ปี

ตำรวจดวงแข็งโจรยิงไม่ตาย ปลิดชีพตัวเองหนีโรครุมเร้า ทรมานฟอกเลือด 8 ปี

ตำรวจดวงแข็งโจรยิงไม่ตาย ปลิดชีพตัวเองหนีโรครุมเร้า ทรมานฟอกเลือด 8 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(29 เม.ย. 62) เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ท.รัชตะ สร้อยแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนทำร้ายตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้าน ม.4 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง นครสวรรค์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนครสวรรค์

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น พบนางมรรษณา อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน นำพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสภาพศพของสามี คือ ร.ต.ท.ชูเกียรติ อายุ 58 ปี สังกัดงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เสียชีวิตอยู่บนเตียง ภายในห้องนอนชั้นหนึ่ง ในสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าอกซ้ายจนเป็นแผลฉกรรณ์ขนาดใหญ่ และบนเตียงนอน พบปืนลูกซองสั้นขนาด 12 ตกอยู่ข้างศพ ทางเจ้าหน้าที่จึงชันสูตรตรวจสอบศพ

จากการสอบสวนในเบื้องต้น นางมรรษณา ภรรยาของ ร.ต.ท.ชูเกียรติ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ช่วงเช้าก่อนที่จะมาพบศพ ตนรวมถึงลูกและสามีอยู่ภายในบ้านทั้ง 3 คน จนกระทั่ง มาเปิดห้องนอนเพื่อดูสามี ปรากฏว่า พบสามีนอนตายจมกองเลือดอยู่บนที่นอนพร้อมกับอาวุธปืน ทั้งที่ไม่ได้เสียงปืนแต่อย่างใด แต่ก็ได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบทันที

ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบประวัติของผู้ตาย ทราบว่า ผู้เสียชีวิตป่วยมีโรคประจำตัวหลายโรค แต่เป็นหนักสุดคือป่วยเป็นโรคไตมานานกว่า 8 ปี ต้องเดินทางไปฟอกเลือดที่โรงพยาบาลวันเว้นวัน จนกระทั่ง ระยะหลัง ชอบไปบ่นกับเพื่อนบ้านว่าเครียดจากโรคที่เป็นอยู่บ่อยๆ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของเพื่อนตำรวจในสังกัดที่ร่วมงาน รวมถึงเพื่อนตำรวจร่วมรุ่นของผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า ช่วงระยะหลัง ร.ต.ท.ชูเกียรติ มักจะมีอาการเซื่องซึมคล้ายกับเป็นโรคซึมเศร้า ที่น่าจะเครียดและวิตกอย่างมากกับอาการโรคไตเรื้อรัง

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายโดยมีสาเหตุมาจากความเครียดเรื่องโรคที่เป็นอยู่ และน่าจะลงมือเองในช่วงกลางดึก ซึ่งขณะนั้น ภรรยาและบุตรชายของ ร.ต.ท.ชูเกียรติ หลับพักผ่อนอยู่ห้องนอนชั้น 2 ทั้งคู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องรอผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน รวมถึงจะมีการสอบปากคำภรรยาและลูกชายของผู้ตายเพิ่มเติม ในการสรุปสำนวนคดีต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ปี 2556 ร.ต.ท.ชูเกียรติ เคยเป็นข่าวโด่งดังมาแล้ว เมื่อสมัยนั้น ยังดำรงตำแหน่งเป็นดาบตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยาวตามประกบยิง ขณะกำลังขับรถกระบะเดินทางไปร่วมงานศพ เหตุเกิดบนถนนเส้นทางสายเก้าเลี้ยว –ชุมแสง พื้นที่ ม.6 ต.หนองเต่า อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น ร.ต.ท.ชูเกียรติ กลับรอดตายราวปาฏิหาริย์ โดยไม่ได้รับบาดเจ็บจากคมกระสุนแต่อย่างใด ทั้งที่รถถูกยิงได้รับความเสียหายหลายจุด

ร.ต.ท.ชูเกียรติ อายุ 58 ปี เมื่อครั้งถูกโจรไล่ยิง

โดยการให้สัมภาษณ์ ร.ต.ท.ชูเกียรติ บอกว่า ขณะเกิดเหตุเห็นรถกระบะคันหนึ่งขับไล่ตามมาประกบอย่างน่าสงสัย จึงตัดสินใจปรับเอนเบาะนอน แล้วปล่อยให้รถไหลก่อนจะได้ยิงเสียงปืนห่าใหญ่ยิงเข้าใส่รถจนตกลงข้างทาง เมื่อเสียงปืนสงบ ก็ไม่พบว่าตัวเองถูกยิง จึงเชื่อว่าน่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของพระกริ่งวัดสุทัศน์ 155 ปี พระสังฆราชแพ ที่คล้องอยู่จึงทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ไม่ทราบว่าเป็นใครจากไหน เพราะไม่เคยมีศัตรูใดๆ จึงอาจเป็นไปได้ว่า น่าจะเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ในเรื่องของการจับคนร้ายที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่ารอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์

จนกระทั่งสุดท้าย วันนี้ มาพบว่ากลายเป็นศพเสียชีวิต จากการฆ่าตัวเองตายอยู่ภายในห้องนอนอย่างน่าสลด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook