มหาเธร์ นายกฯ ผู้ยึดประโยชน์ชาติ บีบจีนยอมลดค่าสร้างรถไฟเร็วสูงลงเกือบครึ่งได้สำเร็จ

มหาเธร์ นายกฯ ผู้ยึดประโยชน์ชาติ บีบจีนยอมลดค่าสร้างรถไฟเร็วสูงลงเกือบครึ่งได้สำเร็จ

มหาเธร์ นายกฯ ผู้ยึดประโยชน์ชาติ บีบจีนยอมลดค่าสร้างรถไฟเร็วสูงลงเกือบครึ่งได้สำเร็จ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เมื่อนายมหาธีร์ โมฮัมหมัดได้ชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปและได้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศมาเลเซียแล้ว ดังนั้นในเดือนมกราคมปีนี้เองนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ได้ประกาศจะยกเลิกสัญญาการก่อสร้างเส้นทางรถไฟที่มีความยาว 688 กิโลเมตร ที่เชื่อมโยงกับประเทศไทยโดยตั้งต้นที่ชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซีย แล่นข้ามตอนกลางของคาบสมุทรมลายูไปเชื่อมโยงกับเส้นทางเดินเรือทางฝั่งตะวันตกที่ช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นโครงการรถไฟตามนโยบาย “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของจีน

เนื่องจากประเทศมาเลเซียตั้งอยู่ติดกับช่องแคบมะละกาอันเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลก มีการขนถ่ายสินค้าผ่านช่องแคบนี้เป็นมูลค่าปีละ 3-5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มาเลเซียจึงมีความสำคัญต่อจีนในฐานะที่เป็นช่องทางการค้าทางทะเลใต้ของจีน

บริษัทผู้ก่อสร้างทางรถไฟสายนี้เป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ชื่อ China Communications Construction Co., Ltd. โดยทางการมาเลเซียกู้เงินจากธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกของจีนในสัดส่วน 85% ของมูลค่าโครงการ โดยมีอัตราดอกเบี้ย 3.25% มูลค่าก่อสร้างของโครงการนี้ประมาณ 19,600 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยโครงการสร้างทางรถไฟนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 9 ปีที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำของมาเลเซีย เป็นช่วงที่จีนเป็นผู้ลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในมาเลเซียด้วยมูลค่ากว่า 3,380 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ที่เจรจาตกลงกับจีนล้วนเกิดขึ้นในยุคของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบทั้งสิ้น        

แต่ต่อมาทางนายกรัฐมนตรีมหาธีร์กลับทำการเจรจากับจีนเพื่อขอแก้ไขสัญญากู้เงินจากธนาคารของจีนที่ให้เงินกู้เงินโดยให้เหตุผลที่ขอเจรจาเงื่อนไขทางการเงินใหม่ว่า โครงการนี้สร้างภาระแก่เศรษฐกิจของประเทศ แต่ผลตอบแทนจะไม่มีเลยในช่วง 10 ปีแรก และมาเลเซียก็มีหนี้ภาครัฐอยู่สูงถึงกว่า 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 8 ล้านล้านบาท คิดเป็น 80% ของจีดีพีเลยทีเดียว

ทำให้ทางมาเลเซียเกรงว่าภาระหนี้เงินกู้จากโครงการรถไฟจีน อาจทำให้มาเลเซียตกเป็นเหยื่อของจีนเหมือนศรีลังกาที่ต้องยกท่าเรือที่กู้เงินจากจีนมาสร้างให้แก่จีนเมื่อปี พ.ศ. 2560 เนื่องจากรัฐบาลศรีลังกาไม่สามารถชำระหนี้ในโครงการท่าเรือ และต้องยกท่าเรือเมืองฮัมบันโตทาให้จีนเช่าเป็นเวลาถึง 99 ปี (เหมือนที่จีนเคยก่นด่าอังกฤษที่อังกฤษบังคับเช่านิวแทริทอรีส์ไปรวมกับเกาะฮ่องกงจากจีนไป 99 ปีในอดีตนั่นเอง)

ปรากฏช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ทางการมาเลเซียตกลงลงนามในสัญญาโครงการรถไฟสายตะวันออกกับจีนอีกครั้ง หลังจากบริษัท China Communications Construction Co., Ltd. ยอมลดราคาค่าก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ลงเหลือเพียง 10,700 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่ประมาณการว่างบประมาณในการก่อสร้างจะบานปลายขึ้นไปถึง 19,600 ล้านเหรียญสหรัฐ (ครับ! หากหักค่าคอร์รัปชันออกไปแล้ว ราคาค่าก่อสร้างก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด)

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ยังประกาศอีกว่ามีเงื่อนไขต่างตอบแทนในการที่มาเลเซียลงนามในสัญญาใหม่ครั้งนี้คือ การที่ทางการจีนจะต้องซื้อน้ำมันปาล์มอันเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดของมาเลเซียเพิ่มขึ้นจากเดิมปีละ 4.7 ล้านตันอีกด้วย

ดูเอาเถอะครับ ทำไมนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียจึงเก่งและดีถึงเพียงนี้!!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook