Netflix คว้าสิทธิ์สร้างเรื่องราวทีมหมูป่า! อุบค่าตอบแทน โค้ชเอกลั่น 13 ถ้ำหลวง ไร้คนชักใย
จัดงานแถลงข่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการประกาศข้อตกลงเกี่ยวกับสิทธิในการผลิตซีรีส์ภารกิจช่วยชีวิต 13 ชีวิตทีมหมูป่า อะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง จังหวัดเชียงรายสู่ผู้ชมทั่วโลกทาง เน็ตฟลิกซ์ ซึ่งจะผนึกกำลังกับ เอสเค โกลบอล เอนเตอร์เทนเมนต์ ในการสรรค์สร้างเรื่องราวที่ได้รับความสนใจจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งในระหว่างช่วงการตอบคำถาม โค้ชเอก-เอกพล จันทะวงษ์ ก็ได้เปิดเผยประเด็นที่สื่อมวลชนให้ความสนใจอีกด้วย
บาส นัฐวุฒิ ผกก. ฉลาดเกมส์โกง ร่วมกำกับ-ยังไม่เปิดเผยรูปแบบการนำเสนอ
โดยในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจาก พลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค โฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จ.เชียงราย, เอริกา นอร์ธ ผู้อำนวยการฝ่ายเนื้อหาระหว่างประเทศของ เน็ตฟลิกซ์, ไมเคิล โฮแกน ประธานฝ่าย International Productions ของ เอสเค โกลบอล เอนเตอร์เทนเมนต์ และ โค้ชเอก-เอกพล จันทะวงษ์ ตัวแทนบริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด ขึ้นพูดคุยบนเวที ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่มีการเปิดเผยว่าเรื่องราวภารกิจช่วยชีวิตทีมหมูป่าจะออกมาในรูปแบบใด อาจจะเป็นซีรีส์ มินิซีรีส์ หรือหนังสั้นก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งหมด รวมถึงนักแสดงก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ เนื่องด้วยยังอยู่ในกระบวนการขั้นต้นเพียงเท่านั้น และยังไม่มีกำหนดการออกฉายแต่อย่างใด ทว่าที่วางตัวเอาไว้แน่ๆ แล้วก็คือ 2 ผู้กำกับชาวเอเชียที่จะมาร่วมมือกับผลิตผลงานชิ้นนี้นั่นก็คือ จอน เอ็ม. ชู ซึ่งเคยฝากฝีมือไว้กับภาพยนตร์คุณภาพ Crazy Rich Asians และตัวแทนประเทศไทย บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ชายผู้นำพาหนัง ฉลาดเกมส์โกง หรือ Bad Genius ไปสู่ระดับโลก
>> จาก ฉลาดเกมส์โกง สู่ ทีมหมูป่า! “บาส นัฐวุฒิ” ร่วมกำกับเรื่องราว 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงทาง Netflix
ขอไม่เปิดเผยค่าตอบแทน
การแถลงข่าวครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งในและนอกประเทศเป็นจำนวนมาก ช่วงของการตอบคำถามนั้นเริ่มต้นด้วยเรื่องราวของ “ค่าตอบแทน” ที่ทีมหมูป่าจะได้รับหลังจากมอบสิทธิให้ เน็ตฟลิกซ์ และ เอสเค โกลบอล เอนเตอร์เทนเมนต์ นำเสนอเรื่องราวภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่ง เอริกา นอร์ธ ตัวแทนจาก เน็ตฟลิกซ์ ก็ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่ายังไม่สามารถบอกตัวเลขได้
หลังจากนั้นมีคำถามเกี่ยวกับข่าวลือที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวกับการที่อาจจะมีการหักค่าดำเนินการในการสร้างคอนเทนต์ดังกล่าวจำนวน 20% จากรายได้ ซึ่ง พลโทวีรชน ได้เป็นตัวแทนตอบคำถามนี้ โดยยอมรับว่าเป็นความคิดแรกเริ่มที่เกิดขึ้น ทว่ายังไม่มีข้อสรุปหรือการกำหนดว่าจะหักกี่เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเยาวชนทีมหมูป่าทุกคน ซึ่งเบื้องต้นทีมหมูป่าก็อยากจะตอบแทนกลับไปสู่สังคมที่เคยช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้ โดยอาจจะนำไปมอบให้ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ เป็นต้น
ทั้งนี้ พลโทวีรชน ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ไม่อยากให้ทุกคนเพ่งเล็งไปที่จำนวนเปอร์เซ็นต์ และอยากให้โฟกัสไปที่เรื่องราวที่ทีมผู้สร้างกำลังจะนำเสนอออกมามากกว่า
โค้ชเอกปฏิเสธ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังบริษัท 13 ถ้ำหลวง
หลังจากเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัด ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยมีเป้าประสงค์ในการดูแลสิทธิประโยชน์ของทีมหมูป่า จึงเกิดข้อสงสัยตามมามากมายถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของบริษัทนี้ และในงานแถลงข่าวก็มีสื่อมวลชนสอบถามไปยัง โค้ชเอก ว่า มีใครอยู่เบื้องหลังบริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัดหรือไม่
โค้ชเอกกล่าวว่า ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังบริษัทดังกล่าว ทั้งยังอธิบายเพิ่มเติมว่า เขาดำรงตำแหน่งประธานบริษัท ในขณะที่คณะกรรมการบริษัทก็คือเหล่าผู้ปกครองของเยาวชนทีมหมูป่า ซึ่งพวกเขามีสิทธิในการตัดสินใจในทุกๆ เรื่องด้วยตนเอง แต่หากว่าเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนเกินกว่าจะตัดสินใจ พวกเขาก็จะไปปรึกษาคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย หรือผู้ใหญ่ที่พวกเขาเคารพนับถือ
เรื่องส่วนตัว VS เรื่องส่วนรวม
ประเด็นสุดท้ายที่เกิดขึ้นในงานแถลงข่าวมาจากสำนักข่าวหนึ่งของเมืองไทย และถามไปยังโค้ชเอกโดยตรงว่า ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า ช่วงเวลาที่ประสบภัยอยู่ในถ้ำหลวงนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องส่วนรวม และเหมาะสมหรือไม่ที่จะนำเรื่องราวในช่วงเวลาดังกล่าวมานำเสนอในรูปแบบธุรกิจ ซึ่งโค้ชเอกมีท่าทีอ้ำอึ้งและตอบเพียงว่า คิดว่าผสมผสานกันระหว่างเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม
ในขณะที่ พลโทวีรชน กล่าวเสริมว่า เขาคิดเช่นเดียวกันกับ โค้ชเอก โดยในมุมของเรื่องส่วนตัว รัฐบาลก็ไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย แต่หากมองในอีกด้าน เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็สามารถเป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มากได้เช่นกัน อาทิ วิธีการทำงานของเจ้าหน้าที่ในด้านต่างๆ ที่สามารถให้องค์ความรู้กับคนทั่วโลกได้ และเขาก็เน้นย้ำว่า เคารพ (Respect) ในสิทธิส่วนบุคคลของทีมหมูป่า อะคาเดมี มาโดยตลอด
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ