สลด! บ้านถล่มทำพ่อเสียชีวิต ขณะครอบครัวกินข้าวพร้อมหน้า 5 คน

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 30 เม.ย. 62 พ.ต.ท.ยศวริศ ทองส่งโสม สว.สอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุตึกถล่มมีคนติดอยู่ภายใน ที่เหตุเกิดเป็นร้านไดนาโม ริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ ฝั่งตรงข้ามกับขนส่งจังหวัดประจวบฯ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วัชรินทร์ บุญรักษ์ ผกก. สภ.เมืองประจวบฯ นาย พัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ทราบ พร้อมขอกำลังสนับสนุนจาก น.อ.วิสันต์ พจน์บรรดิษฐ์ รอง ผบ.กองบิน 5 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ และ ปภ.เขต 4 สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 2 เทศบาลเมืองประจวบฯ อบต.เกาะหลัก อบต.อ่าวน้อย หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน ทหาร ฉก.จงอางศึก ฯลฯ เดินทางไปช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบเป็นร้านไดนาโมลักษณะบ้านปูนชั้นครึ่ง สภาพพังลงมาทั้งหลัง เบื้องต้นพบมีผู้รอดชีวิต 2 คนที่วิ่งออกมาทัน แต่อีก 3 คนยังติดอยู่ภายในซากอาคาร คือ 1. นายชัยโรจน์ อายุ 54 ปี (พ่อ) 2. นางสิริกาญจน์ อายุ 52 ปี (แม่) และ 3. นางสาวธันยากานต์ อายุ 31 ปี (ลูกสาวคนโต)

เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมเครื่องจักรกลและคนเข้าดำเนินการเร่งให้ความช่วยเหลือด้วยการใช้เหล็กงัดเอาซากปูนและเศษเหล็กจากการก่อสร้างออกนำมาทิ้งภายนอก แต่ทำงานได้ยากลำบากเนื่องจากซากตึกมีขนาดใหญ่

ทั้งนี้ นางสาวธันย์นิชา อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุในขณะที่นั่งกินข้าวพร้อมกันทั้งครอบครัว 5 คน พ่อ แม่ และลูกอีก 3 คน ได้ยินเสียงเหมือนอะไรดังอยู่บนหลังคา ตนเองกับน้องอีก 1 คน คือ เด็กหญิงธัญรัตน์ อายุ 14 ปี จึงออกมาดูหน้าบ้านและได้เห็นหลังคากำลังพังลงมา ตัวบ้านที่เป็นตึกก็ทรุดลงต่อหน้าต่อตา ส่วนพ่อ แม่และพี่สาวอีกหนึ่งคนยังติดอยู่ภายในบ้าน ตนตกใจมากทำอะไรไม่ถูกวิ่งเข้าไปช่วยก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพื่อนบ้านใกล้เคียงจึงโทรแจ้งขอความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ดีล่าสุดได้ยินเสียงผู้เป็นแม่ส่งเสียงขอความช่วยเหลืออยู่ใต้ซากอาคาร เจ้าหน้าที่ทหารกองบิน 5 และหน่วยกู้ภัยจึงเร่งมืออย่างเต็มที่แล้ว โดยมีนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ควบคุมการช่วยเหลือครั้งนี้

เวลา 22.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตึกถล่มที่ประจวบคีรีขันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันให้ความช่วยเหลือ โดยนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ นายเอกชัย ปิตานุรักษ์ ผู้อำนวยการส่วนสนับสนุนทรัพยากร และเจ้าหน้าที่ศูนย์ ปภ. พร้อมเครื่องมือเร่งดำเนินการค้นหาผู้ที่รอดชีวิตอยู่ใต้ซากตึก

โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการใช้เครื่องจักรกลหนัก รถแบ็คโฮ รถยก เครื่องเจาะคอนกรีต เครื่องตัดเหล็ก เข้าดำเนินการรื้อซากปรักหักพังที่ทับถมอยู่ โดยเฉพาะจุดที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อใช้เครื่องมือเจาะลงไปเปิดคอนกรีตออกพบว่ามีคนติดอยู่ภายใน

ล่าสุดสามารถช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังออกมาได้ 1 ราย คือ นางสิริกาญจน์ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นแม่ โดยหน่วยกู้ภัยและกู้ชีพได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์เพื่อให้แพทย์ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในส่วนของพ่อและลูกสาวอีกหนึ่งคนเจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมกำลังในการค้นหาอย่างเต็มที่ ซึ่งเชื่อว่าอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบผู้เป็นแม่ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ที่ติดอยู่ในซากตึกดังกล่าวออกมาแต่อย่างใด

ต่อมาในเวลา 00.30 น. วันที่ 1 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ใช้เครื่องมือพิเศษสำหรับกู้ภัยในเมืองทำการผ่าซากคอนกรีตและเหล็ก เพื่อแยกชิ้นออกจากกันเปิดช่องให้ทีมอาสาสมัครกู้ภัยได้สอดตัวลงไปเพื่อค้นหาผู้ที่ติดอยู่ภายใน ซึ่งทีมกู้ภัยได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้หญิง จึงได้คลานเข้าไปหาแต่พบว่ามีผนังปูนและตู้ปิดกั้นอยู่จึงได้ส่งสัญญาณให้ด้านบนเจาะลงไปตรงบริเวณจุดที่พบ และได้เปิดคอนกรีตออกมา นำนายชัยโรจน์ ซึ่งเป็นพ่อออกมาก่อน โดยแพทย์พบว่าได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนลูกสาวคือ นางสาวธันยากานต์ ที่ถูกทับอยู่ หน่วยกู้ภัยได้ช่วยกันใช้เครื่องถ่างคอนกรีตที่ทับอยู่ออกและสามารถนำตัวออกมาได้ ส่งให้แพทย์ รพ.ประจวบฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือ

โดย นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าจุดแรกที่ได้ยินเสียงการลั่นตัวมาจากเสาหรือคานดังออกมาบริเวณหลังบ้านด้านซ้าย อย่างไรก็ดีต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้เข้ามาให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือในครั้งนี้ ทำให้ได้ช่วยเหลือผู้ที่ติดในอาคารทั้ง 3 คนออกมาได้ และนำส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์แล้ว ส่วนในพื้นที่เกิดเหตุได้สั่งให้กันพื้นที่ไว้เพื่อรอการตรวจสอบต่อไป

นายเด่น เนตรภักดี ทีมกู้ภัยกุยบุรีที่ได้ร่วมในการค้นหา เปิดเผยว่า ในขณะที่มุดเข้าไปได้ยินเสียงผู้ได้รับบาดเจ็บร้องให้ช่วย โดนพ่อทับตัวเองอยู่จึงให้ทุกคนด้านบนเงียบเสียงเพราะจะได้มุดเข้าไปในจุดที่ได้ยินเสียงพร้อมกับเพื่อนกู้ภัยอีก 3 คน และได้ยินเสียงลูกสาวตะโกนบอกว่าหนูอยู่ทางนี้ ซึ่งพบว่าฝาผนังปูนได้ล้มทับตู้แล้วไปทับผู้ได้รับบาดเจ็บไว้ จึงส่งสัญญาณมาที่ด้านบนใช้เครื่องตัดคอนกรีตเปิดทาง และดึงผู้เป็นพ่อซึ่งทับอยู่ด้านบนออกมาก่อน แต่จากการตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว จากนั้นหน่วยกู้ภัยสว่างประจวบฯ ได้ใช้เครื่องถ่างคอนกรีตที่ปิดและทับอยู่ออกทำให้สามารถนำตัวลูกสาวออกมาได้ แล้วจึงนำส่งให้หน่วยแพทย์ได้อย่างปลอดภัย