กรรมติดจรวด หนุ่มขโมยวัวผู้มีพระคุณไปขาย โป๊ะแตกคนรับซื้อเป็นน้องชายเจ้าของ

กรรมติดจรวด หนุ่มขโมยวัวผู้มีพระคุณไปขาย โป๊ะแตกคนรับซื้อเป็นน้องชายเจ้าของ

กรรมติดจรวด หนุ่มขโมยวัวผู้มีพระคุณไปขาย โป๊ะแตกคนรับซื้อเป็นน้องชายเจ้าของ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(3 พ.ค.62 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้จับกุมตัว นายสิทธิชัย อายุ 29 ปี ชาว ต.ตาคลี จ.นครสวรรค์ หลังจากนายดิลก อายุ 71 ปี ชาวบ้าน ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย ได้เข้าแจ้งความว่าถูกนายสิทธิชัย ขโมยวัวเพศเมียที่เลี้ยงไว้ภายในสวนไป ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. จากนั้นได้นำไปติดต่อขายให้กับพ่อค้ารับซื้อวัวควาย

แต่เหมือนกรรมติดจรวดเพราะพ่อค้าที่นายสิทธิชัย ติดต่อจะขายวัวให้ คือนายสุทัน เป็นน้องชายของผู้เสียหายเอง โดยผู้ต้องหาไม่รู้มาก่อน ซึ่งนายสุทัน ก็จำตำหนิรูปพรรณวัวของพี่ชายได้จึงโทรศัพท์ไปบอกพี่ชายว่ามีคนนำวัวมาขายให้ พี่ชายจึงบอกให้รับซื้อไว้ก่อนแล้วถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน น้องชาย ผู้เสียหายจึงได้รับซื้อไว้ในราคา 9,000 บาท เมื่อพี่ชายเดินทางมาดูก็ยืนยันว่าเป็นวัวของตนเองที่หายไปจริง

โดยนายดิลก ดินประโคน ผู้เสียหาย บอกว่า นายสิทธิชัย ผู้ต้องหาเป็นคนต่างถิ่น มาจาก จ.นครสวรรค์ มามีครอบครัวอยู่ที่ อ.ประโคนชัย เคยมาขอเช่าที่นาของตนเองเพื่อทำนา แต่ตนก็ไม่ได้เก็บค่าเช่าแต่ให้ช่วยกันทำนาแล้วแบ่งข้าวกัน เพราะเห็นว่าไม่มีงานทำ แต่ไม่คิดว่านายสุทธิชัย จะมาทำแบบนี้กับผู้มีพระคุณ ด้วยการก่อเหตุลักขโมยวัวของตนได้ลงคอ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ขอไกล่เกลี่ยพูดคุยด้วยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะขโมยวัวแล้ว ที่ผ่านมาหมูที่เลี้ยงไว้ก็หายไปหลายครั้งเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของนายสิทธิชัยที่ขโมยไปขายเช่นกัน ที่ผ่านมา ก็ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบ ไปแล้ว 3 คดี ครั้งแรกลูกหมูพร้อมแม่หมูได้หายไปจากเล้าจำนวน 3 ตัว และวัวได้หายไปจากคอกครั้งละ 1 ตัว 2 ครั้ง จึงขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อจะได้ไม่ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก

จากการสอบสวนนายสิทธิชัย เบื้องต้นอ้างว่า ได้รับซื้อวัวตัวดังกล่าวมาจากคนอื่นในราคา 8,000 บาท จึงได้นำมาขายต่อเพื่อเอากำไรเท่านั้น โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นวัวที่ขโมยมา ส่วนหมูขโมยไปแค่ตัวเดียวอีก 2 ตัวไม่ได้เอาไป แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะนายสิทธิชัย เพราะไม่สามารถนำพยานที่อ้างว่านำวัวมาขายให้ในตอนแรกมายืนยันได้ จึงได้นำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุพร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวส่งให้ ร.ต.อ.ฐกร เสรีวรยศ พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ผู้มีอาชีพกสิกรรม” ส่วนประเด็นอื่นจะได้สืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง หากพบมีการกระทำผิดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook