"เซ็กซ์ทอยนะคะ ไม่ใช่อาวุธสงคราม" สาวโพสต์รูปให้กำลังใจเหยื่อโดนแกะพัสดุ-จวกคนทำผิด

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (1 พ.ค.) เป็นรูปเซ็กซ์ทอย คู่กับรูปของตัวเอง เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ผู้ที่ใช้เซ็กซ์ทอยมีความมั่นใจ และตระหนักว่าการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ยังมีประโยชน์

ผู้โพสต์ระบุว่า ตนตัดสินใจโพสต์เรื่องดังกล่าว เพราะช่วงก่อนหน้านั้น ตนรู้สึกไม่สบายใจนักเมื่อทราบข่าวเกี่ยวกับพนักงานบริษัทขนส่งชื่อดังกลุ่มหนึ่ง แกะกล่องพัสดุของลูกค้ารายหนึ่ง ที่ด้านในมีเซ็กซ์ทอย ก่อนนำเซ็กซ์ทอยของลูกค้าคนนั้นมาถ่ายรูปเล่นในเชิงล้อเลียน และโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ทั้งยังมีการบอกต่อที่อยู่ของลูกค้าคนนั้น และเมื่อเรื่องเผยแพร่ไปถึงหูคนในครอบครัว จึงเกิดความเข้าใจผิด ทั้งยังมีปากเสียงกับคนรัก จนคนรักขอเลิก

"ได้อ่านข่าวพนักงานส่งของสีส้มเปิดแกะกล่องพัสดุของลูกค้าผู้หญิงที่สั่งเซ็กซ์ทอยโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วนำของที่อยู่ข้างในมาถ่ายภาพ ล้อเลียน พร้อมกับเผยแพร่ในเฟชบุ๊กโดยมีเพื่อนร่วมงานชายเข้ามาแสดงความคิดเห็นส่อไปในทางล่วงละเมิด จนกระทั่งสร้างความเสียหายให้กับผู้หญิงคนดังกล่าว จนเพื่อนตีตัวออกห่าง ทะเลาะกับที่บ้าน แฟนขอบอกเลิก ถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตาย อ่านข่าวแล้วตกใจมากค่ะ" ผู้โพสต์ ระบุ

>> จวกยับ! พนักงานบริษัทส่งสินค้าแอบแกะเซ็กซ์ทอยลูกค้า ถ่ายรูปเล่น-ล้อลงโซเชียล

>> สาวโดนแกะพัสดุสุดอาย! เพจล่า เผยเหยื่ออยากฆ่าตัวตาย ทะเลาะครอบครัว-แฟน

จวกละเมิดความเป็นส่วนตัว-ละเมิดทางเพศ

ผู้โพสต์แสดงความเห็นอย่างน่าสนใจ 3 ข้อ ต่อสิ่งที่เหยื่อได้รับคือ การบอกที่อยู่และข้อมูลของเหยื่อเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว ส่วนการใช้คำพูดกล่าวถึงเหยื่อโดยส่อไปในทางเพศ ก็เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ และสุดท้าย ผู้โพสต์ยังตั้งข้อสังเกตว่า การที่ผู้กระทำ ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมด กล้ากล่าวละเมิดทางเพศเหยื่อ ที่เป็นผู้หญิง อย่างสนุกปากเช่นนั้น เป็นเพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ และไม่เท่าเทียมต่อผู้หญิง

"หนึ่ง การล่วงละเมิดและเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตนี่ก็ถือว่าร้ายแรงมากแล้วนะคะ ต้องดำเนินคดีทางกฏหมายให้ถึงที่สุด" ผู้โพสต์ระบุ "สอง คือ การที่การล่วงละเมิดทางเพศผ่านการใช้ภาษา นี่ก็ยอมรับไม่ได้ค่ะ สาม คือ โห สังคมแบบไหนคะที่อนุญาตให้ผู้ชายมีความสุขสำราญทางเพศได้อย่างอิสระ แต่สามารถทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งอยากฆ่าตัวตายได้เพียงแค่ครอบครองเซ็กส์ทอยเป็นของตัวเอง คือบับ เซ็กส์ทอยนะคะ ไม่ใช่อาวุธสงคราม บอกเลยว่าเห็นใจและอยากให้กำลังใจเธอคนนั้นค่ะ"

เป็นอุปกรณ์มีประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย

ผู้โพสต์ระบุต่อไปว่า เซ็กซ์ทอยคืออุปกรณ์ที่หลายคน รวมถึงตัวผู้โพสต์เองก็ใช้ เพราะช่วยปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศได้ดี 

"ฝากไปถึงแฟนและครอบครัวเธอคนนั้นค่ะ การมีอุปกรณ์ช่วยตัวเองไม่ใช่เรื่องน่าอับอายนะคะ ตรงกันข้ามมันมีประโยชน์คุณูปการค่ะ ควรมีติดไว้สักอันในชีวิต เหมือนยาสามัญประจำบ้านค่ะ ส่วนตัวนี่ไม่รู้ว่าพังไปกี่อันแล้วค่ะ แฟนซื้อให้บ้าง เพื่อนซื้อให้ของขวัญวันเกิดบ้าง ซื้อเองบ้าง รสนิยมทางเพศเป็นเรื่องส่วนบุคคลนะคะ ตราบใดที่ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนหรือล่วงละเมิดใคร" 

นอกจากนี้ ผู้โพสต์ย้ำว่า การใช้เซ็กซ์ทอยไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องน่าอาย และไม่ใช่อาชญากรรม แต่การนำข้อมูลคนอื่นไปเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตต่างหาก ที่เป็นอาชญากรรม

"สุดท้ายอยากบอกกับเธอคนนั้น และผู้หญิงอีกหลายคนที่ครอบครองเซ็กส์ทอยเป็นของตัวเองนะคะว่า You'll never walk alone ka (คุณยังมีอีกหลายคนอยู่เคียงข้างนะคะ) การที่ผู้หญิงมีเซ็กส์ทอยเป็นของตัวเองไม่ใช่อาชญากรรมนะคะ แต่การล่วงละเมิดและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคนอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมต่างหากค่ะ ที่เป็นอาชญากรรม" 

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เหยื่อโดนแกะพัสดุรายนั้นตัดสินใจไม่เอาผิดพนักงานบริษัทขนส่งสินค้าที่ก่อเหตุ เนื่องจากเห็นว่า พนักงานเหล่านี้โดนบริษัทยกเลิกสัญญาการทำงาน และโดนสังคมลงโทษแล้ว ไม่ใช่แค่นั้นยังเห็นว่าพวกเขาสำนึกผิดต่อสิ่งที่ทำลงไป ขณะเดียวกันเหยื่อยังมีความเห็นอกเห็นใจคนเป็นลูกจ้างเหมือนกัน

>> เคอรี่ เอ็กซ์เพรส แถลงไล่ออก 4 พนักงานแกะเซ็กซ์ทอยลูกค้า ลั่นดำเนินคดีถึงที่สุด

>> เหยื่อโดนแกะพัสดุให้อภัย-ไม่เอาความ 4 อดีตพนักงานบริษัทส่งสินค้า