พ่อเฒ่าอัลไซเมอร์หายจากบ้าน 3 วัน กู้ภัยจุดธูปบอกแค่ 2 นาที เจอเป็นศพ

ญาติออกตามหาพ่อเฒ่าป่วยอัลไซเมอร์ หลังหายตัวไป 3 วันเต็ม เจ้าหน้าที่ยกทีมช่วยหา แต่พอกู้ภัยจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง เพียงแค่ 2 นาที ได้พิกัดเจอร่างไร้วิญญาณ ทั้งที่เดินหาจุดนี้มาหลายรอบแล้ว

เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) ร.ต.อ.ฤทธิพงษ์ มะปะเข รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบคนเสียชีวิตบริเวณหลังเล้าไก่ร้าง หมู่ 4 ต.มะขามล้ม จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ภูริภัทร ภิรมย์ภู่ สว.สส.ร.ต.อ.พนม มั่นปาน รอง สว.สส.กำลังฝ่ายสืบสวนแพทย์เวร รพ.บางปลาม้า และสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี

ที่เกิดเหตุพบ นางบุญเทียม อายุ 69 ปี พร้อมกับหลานสาว กำลังยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมกับเล่าว่าผู้เสียชีวิตเป็นบิดาคือ นายทอน อายุ 87 ปี ซึ่งพบร่างอยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 300 เมตร หลังได้หายออกจากบ้านได้ 3 วันแล้ว

นางบุญเทียม เล่าว่า พ่อป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ โรคต่อมลูกหมากโต และโรคโลหิตจาง ก่อนเกิดเหตุได้หายออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงสายของวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนกับลูกหลานช่วยกันออกตามหาแต่ไม่พบ จึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปลาม้า ให้ช่วยตามหาแต่ก็ยังไม่พบ

ทั้งนี้ ในใจก็ยังคิดว่าพ่อคงยังมีชีวิตอยู่และคงไปไหนได้ไม่ไกล กระทั่งทางหน่วยกู้ภัยของสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวง ได้พากันมาช่วยค้นหาอีก โดยก่อนที่พากันออกค้นหาเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง เมื่อเจ้าหน้าที่ออกเดินหาก็เกิดสิ่งเหลือเชื่อขึ้น เพียงไม่ถึง 10 นาที ก็พบร่างของพ่อ นอนเสียชีวิตอยู่ที่ท้ายโรงเลี้ยงไก่ร้างในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว

ทั้งที่บริเวณดังกล่าวญาติๆ ได้พากันมาเดินหาแล้วหลายรอบ แต่ไม่เจออะไร คล้ายกับเจ้าที่เจ้าทางเขาบังตาเอาไว้ไม่ให้เจอกระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยจึงพบร่างในที่สุด

นายกเชน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นผู้ที่เจอร่างผู้เสียชีวิตเป็นคนแรกเล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนได้รับแจ้งจากทางญาติผู้เสียชีวิตว่ามีบุคคลสูญหาย จึงประสานกำลังเพื่อนสมาชิกมาร่วมกับช่วยกันออกค้นหา โดยบริเวณดังกล่าวญาติและชาวบ้านหลายคนได้พากันมาค้นหาบริเวณดังกล่าวแล้ว 2-3 รอบ แต่ไม่เจอ

กระทั่งตนจึงตัดสินใจจุดธูป 16 ดอก บูชาครูบาอาจารย์และบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางให้ช่วยเปิดทางเพื่อจะได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศล หลังจุดธูปไม่ถึง 2 นาที ครูบาอาจารย์ได้บอกให้เดินมาที่บริเวณดังกล่าว ก็ไปเจอผู้เสียชีวิตในที่สุด ซึ่งการจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางนั้น ตนมักจะทำอยู่ประจำทุกครั้งที่ออกค้นหาผู้สูญหาย ทั้งบนบกและในน้ำ ซึ่งก็ทำให้พบกับผู้ที่สูญหายจริงๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ชันสูตรอย่างละเอียดแล้วญาติไม่ติดใจเนื่องจากผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหลายโรค ประกอบกับอายุมากแล้ว จึงทำให้หลงลืมและเดินออกจากบ้านไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่ได้กินข้าวกินปลา จึงทำให้หมดแรงเป็นลมแดด จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป