เครื่องบินส่วนตัวตกในเม็กซิโก ลือเป็นตระกูลนักธุรกิจ ตายยกลำ 13 ศพ

ทางการเม็กซิโกยืนยันเหตุเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวตกในพื้นที่ห่างไกล ทางตอนเหนือของประเทศ หลังพบเศษซากและไม่มีสัญญาณผู้รอดชีวิต หลังออกบินมาจากนครลาส เวกัส

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวประสบเหตุตกในเขตเทือกเขา พื้นที่ห่างไกลในประเทศเม็กซิโก หลังจากออกเดินทางมาจากนครลาส เวกัส ทางการได้ยืนยันว่าไม่พบร่องรอยของผู้รอดชีวิต ผู้โดยสารและนักบินทั้ง 13 คน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ทางการเม็กซิโกได้ออกแถลงการณ์ว่า เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) เจ้าหน้าที่รัฐโกอาวีลา ทางตอนเหนือของเม็กซิโก ได้พบซากเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวที่ประสบเหตุตกอยู่ในเขตเทือกเขา จากการตรวจสอบพบว่าซากเครื่องบินเหลือเพียงซาก ถูกไฟไหม้เผาเป็นตอตะโก และยังพบชิ้นส่วนตกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ อีกทั้งยังไม่พบสัญญาณของผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้

สำหรับเครื่องบินเจ็ทที่ประสบเหตุครั้งนี้ เป็นเครื่องบินบอมบาร์เดียร์ รุ่นแชลเลนเจอร์ 601 ได้ออกเดินทางจากสนามบินในนครลาส เวกัส เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ตามเวลาในท้องถิ่น ก่อนจะทำการบินมุ่งลงตอนใต้มายังประเทศเม็กซิโก แต่หลังจากราวๆ 2 ชั่วโมงของการบิน เครื่องบินลำดังกล่าวก็ขาดการติดต่อไป และสัญญาณบนหน้าจอเรดาร์ก็หายไปด้วย

ขณะที่สื่อท้องถิ่นของเม็กซิโกระบุว่า บนเครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้โดยสาร 10 คน ลูกเรือ 3 คน เชื่อว่าเป็นครอบครัวชาวเม็กซิกัน ที่ได้เดินทางไปชมการขันชกมวยคู่ระหว่าง ซาอูล "คาเนโล่" อัลวาเรซ นักชกชาวเม็กซิกัน กับ แดเนียล จาคอบส์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และยังมีข้อมูลไม่แน่ชัดว่า อาจจะเป็นนักธุรกิจ หลุยส์ ออคตาวิโอ เรเยส โดมินเกส กับภรรยาและลูกๆ ที่อยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทางบอมบาร์เดียร์และคณะกรรมการด้านความปลอดภัยในการขนส่งของแคนาดา ได้ร่วมมือกับกรมการบินพลเรือนของเม็กซิโก เพื่อทำการสืบสวนหาสาเหตุแท้จริงของเครื่องบินตกครั้งนี้