นายดาบปวดแก้วหูมา 8 เดือน รักษาไม่หายสักที ชักปืนยิงเป่าหัวตัวเอง

นายดาบปวดแก้วหูมา 8 เดือน รักษาไม่หายสักที ชักปืนยิงเป่าหัวตัวเอง

นายดาบปวดแก้วหูมา 8 เดือน รักษาไม่หายสักที ชักปืนยิงเป่าหัวตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดาบตำรวจหนุ่มใหญ่ทนทุกข์กับอาการป่วยเรื้อรัง เจ็บแก้วหูชั้นในและรักษามากว่า 8 เดือน กระทั่งวันลางานใกล้จะหมด เครียดจัดชักปืนยิงตัวเองเสียชีวิตที่ร้านเพื่อน

(10 พ.ค.) ร.ต.อ.ภูริภัทร ภูเมฆ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สามโคก ได้รับแจ้งมีเหตุยิงตัวเอง ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเกียรติ สีมาคุปต์ผกก.สภ.สามโคก กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง แพทย์เวรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตเป็นบ้านเดี่ยวมีรั้วรอบขอบชิด ด้านข้างเปิดเป็นอู่ซ่อมปะรถ อีกด้านเป็นสถานที่เลี้ยงไก่ชน ที่บริเวณเปลซึ่งโยงกับต้นไม้ใหญ่ พบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ด้านบน ทราบชื่อต่อมา ด.ต.ขจร อายุ 48 ปี ผบ.หมู่งานป.สภ.สามโคกช่วยราชการ ศูนย์วิทยุ 191 ปทุมธานี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับขวา บริเวณหน้าอกมีอาวุธปืนตกอยู่ 1 กระบอก บริเวณพื้นดินพบโทรศัพท์มือถือและรองเท้าของผู้เสียชีวิตวางอยู่

นายคงศักดิ์ อายุ 39 ปี ช่างทำสีรถยนต์และเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิตให้การว่า ปกติแล้ว ด.ต.ขจร จะมาที่เกิดเหตุทุกวัน เพื่อมานอนเล่นและเลี้ยงไก่ชน กระทั่งวันนี้ตนเองออกไปข้างนอกและเข้ามาช่วงบ่ายๆ ก็พบเห็นผู้เสียชีวิจนอนอยู่บนเปล สภาพมดกัดที่ขา แต่ทำไมไม่ขยับ จึงเดินไปดูก็พบว่าเพื่อนยิงตัวเองตาย จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

นางบุบผา อายุ 66 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกชายจะมานอนที่เปลข้างอู่ทำสีรถยนต์เป็นประจำเกือบทุกวัน และนำไก่ชนมาเลี้ยงไว้จำนวนหลายตัว ลูกชายมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน และมีอาการปวดแก้วหูชั้นในเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเสียง

ล่าสุดได้ลางาน เพื่อรักษาตัวเป็นเวลา 45 วัน ล่าสุดวันลาหมดไปแล้ว 40 วัน แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น โดยพบว่ามีอาการปวดที่แก้วหูชั้นในอย่างรุนแรง แม้จะรักษามาต่อเนื่องประมาณ 8 เดือน แต่ไม่ทุเลาเลย ก็ไม่คิดว่าลูกชายจะมาฆ่าตัวตายเช่นนี้

ร.ต.อ.ภูริภัทร ภูเมฆ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สามโคก เปิดเผยว่า ได้ประสานแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐาน และให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook