โซเชียลชมกระหน่ำ แก๊งโจ๋เก็บสร้อยผู้เสียชีวิตได้ ส่งคืนญาติไม่คิดเอารางวัล
คนอ่างทองปรบมือให้แก๊งวัยรุ่นเจ้าถิ่น สามารถเก็บเลสข้อมือทองคำของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุน่าเศร้าได้ ก่อนติดต่อส่งคืนให้ญาติ และไม่ขอรับค่าตอบแทนใดๆ เพราะทำไปด้วยใจ
(13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก WorraPhon Pong ได้โพสต์เรื่องราวและภาพถ่ายลงโซเชียลมีเดีย ระบุตามหาวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กลายเป็นพลเมืองดี สืบเนื่องจากอุบัติเหตุน่าเศร้ามีผู้เสียชีวิต 6 ศพ ในพื้นที่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ที่ปรากฏว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้ค้นหาสร้อยข้อมือทองคำ มูลค่าเป็นแสน นำกลับมาคืนให้กับญาติเหยื่อผู้เสียชีวิต
"ฝากแชร์ให้เด็กๆ พวกนี้หน่อยครับ ขอบคุณมากนะครับ พอดีว่าครอบครัวผมเกิดอุบัติเหตุที่วิเศษชัยชาญ มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ แล้วพอดีเลสข้อมือเหลี่ยมทองหลวงพ่อรวยได้หายไป ผมกับพี่ๆ และเพื่อนๆ ได้ย้อนไปตามหาในที่เกิดเหตุแต่ก็ไม่เจอ กระทั่งในวันนี้ น้องๆ พวกนี้ได้ไปตามหาของที่หายไป โดยที่ผมกับญาติพี่น้องไม่รู้
ก่อนที่เด็กพวกนี้ได้ไปเจอเลสหลวงพ่อรวยเลี่ยมทองตกอยู่ แล้วได้โทรศัพท์มาหาผม โดยไม่รู้เหมือนกันว่าเอาเบอร์โทรผมมาจากไหน บอกว่าเจอเลสข้อมือตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คือถ้าเป็นคนอื่นอาจจะเอาไปขายแบ่งเงินกันไปแล้ว โดยเป็นเลสข้อมือเลี่ยมทอง พร้อมสร้อยทองคำหนัก 4 บาท ราคาเท่าไหร่ผมไม่แน่ใจ แต่น่าจะแพงมาก
พอไปรับเลสข้อมือกลับมา น้องชายผมก็ยื่นเงินให้ 1,000 บาท เป็นค่าสินน้ำใจให้น้องๆ แต่พวกเขาไม่รับเงินเลยสักคน บอกจะพาไปเลี้ยงข้าวก็ไม่เอา จะให้อะไรก็ไม่ยอมรับ ผมก็เลยซื้อน้ำอัดลมมาให้แทน ขอบคุณมากๆ นะครับ ตอนนี้ครอบครัวพวกพี่ก็สภาพจิตใจแสนสาหัสอยู่แล้ว แต่ยังดีที่ได้มาเจอน้องๆ แบบพวกเอ็ง"
>> สยอง! แม่ค้าหมูจอดรถคุยหลังเฉี่ยวจยย. เจอกระบะขับพุ่งชน ดับ 6 ศพ
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ วัดโล่สุทธาวาส ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง เพื่อพบกับ นายวรพล อายุ 27 ปี เจ้าของเรื่องราวดังกล่าว พร้อมกับนำเลสข้อมือที่ได้กลับคืนมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู โดยเปิดเผยว่า หลังครอบครัวของตนประสบอุบัติเหตุ ทำให้บุคคลในครอบครัวเสียชีวิตไป 4 คน และยังบาดเจ็บอีก 3 คน โดยมีทรัพย์สินสูญหายไป จึงกลับจุดเกิดเหตุเพื่อค้นหา
โดยเฉพาะเลสข้อมือเส้นนี้ ซึ่งมีราคาไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท แต่วันนั้นหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ทำให้ทุกคนถอดใจ แต่อยู่ๆ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็มีโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ โทรมาหา พร้อมกับมาถามเรื่องเลสข้อมือ และบอกว่าเจอเลสข้อมือและเก็บเอาไว้ได้ จึงได้นัดและไปพบกับกลุ่มวัยรุ่นยืนรออยู่
เด็กหนุ่มหนึ่งในนั้นรู้จักกับน้องชายของตน ทั้งหมดได้ยื่นเลสข้อมือเลี่ยมทองที่เต็มไปด้วยคราบโคลนและคราบเลือดของผู้เสียชีวิต แต่พอให้เงินเพื่อเป็นการตอบแทน น้องๆ กลับไม่รับ ทำให้คิดว่าถ้าหากเป็นคนอื่นมาเจอ คงไม่ได้คืนกลับมาแน่ๆ จึงได้นำเรื่องราวไปโพสต์แชร์ เพื่อบอกต่อและยกย่องเด็กๆ กลุ่มนี้ในการทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังพบกับ นายศุภากร หรือ แอฟ อายุ 18 ปี กับ นายจีรนัย หรือ นิว อายุ 15 ปี เป็น 2 ใน 4 กลุ่มวัยรุ่นพลเมืองดีในครั้งนี้ โดยทั้งสองเล่าว่า พี่ชายของเพื่อนในกลุ่มรู้จักกับญาติของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ อีกทั้งพวกตนก็เคยทำงานอยู่ที่เขียงหมูใกล้ๆ กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต
หลังเห็นคนนำเรื่องราวของอุบัติเหตุมาแชร์ลงในเฟซบุ๊ก และระบุว่ามีทรัพย์สินบางอย่างสูญหายไป พวกตนจึงชักชวนกันมาช่วยค้นหา โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะพบเลสข้อมือดังกล่าว ที่หล่นจมดินโคลนอยู่ ต่อมาจึงให้พี่ชายเพื่อนติดต่อให้กับญาติผู้เสียชีวิตมารับคืนไป พวกตนไม่คิดที่จะเก็บเอาไว้ เพราะรู้ว่าเจ้าของคงอยากได้คืน ส่วนสาเหตุที่ไม่รับเงินเพราะพวกตนทำด้วยใจอาสา บางทีคนอื่นเห็นว่าเราเป็นแค่กลุ่มเด็กเกเร แต่ก็ไม่อยากให้ตัดสินคนอื่นด้วยการมองจากภายนอกเท่านั้น