เสธ.หนั่น ชี้ประมาท ภูมิใจไทย ไม่ได้
พล.ต.สนั่น ลั่นชาติไทยพัฒนาไม่หวั่น ภูมิใจไทย ประกาศนโยบายใหม่หาเสียงอีสาน เชื่อไม่โตเท่าไทยรักไทยในอดีต แต่ก็ประมาทไม่ได้
(8มิ.ย.) เวลา 10.00 น.ที่ทำเนียบ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคภูมิใจไทยรุกหนักโดยการใช้"นโยบายภูมิปัญญา นาดี-หนองไผ่"ในการหาเสียงที่ จ.สกลนคร ว่า เป็นเรื่องธรรมดาเวลาไปหาเสียงที่พรรคการเมืองต้องประกาศนโยบายใหม่ๆ เพราะต้องการให้ประชาชนได้เลือก เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไร ส่วนที่ว่ายังมีการดูด ส.ส.จากพรรคอื่นเข้ามาได้เป็นจำนวนมาก ก็ต้องแล้วแต่ความสามารถของแต่ละพรรคการเมือง เป็นเรื่องธรรมดาที่ ส.ส.จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
พล.ต.สนั่น ยังกล่าวถึงกรณีที่ว่าลักษณะการออกตัวแรงเช่นนี้จะเหมือนกับพรรคไทยรักไทยในอดีตหรือไม่ ว่า นโยบายนั้นเป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่จะคิดขึ้นมา หากมีโอกาสนำนโยบายนั้นมาใช้ได้ก็เป็นเรื่องที่ดี และที่ว่าจะกลายเป็นส.ส.จากพรรคไทยรักไทยมารวมตัวกันอยู่ที่พรรคภูมิใจไทยทั้งหมด นั้น เชื่อว่าคงไม่ถึงขนาดนั้น มารวมหมดคงยาก แต่คงมาอยู่ร่วมในพรรคภูมิใจไทยอาจจะมากขึ้น ต้องดูว่าพรรคไหนแข็งแรงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนารู้สึกหวั่นไหวต่อการเปิดตัวแรงของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่หวั่นไหวแต่อย่างใด เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคเล็กๆอยู่อย่างสมถะ และคงไม่กลัวลูกพรรคถูกดูด แต่อยู่ที่ลูกพรรคนั้นเป็นอย่างไร ลอกแลกหรือไม่ คนที่ไม่ลอกแลกและยึดมั่นก็ยังอยู่ที่เดิม คนไหนที่ลอกแลกๆคงไป แต่อย่างไรก็ตามคนที่เป็นส.ส.เขาก็ดูว่าพรรคที่จัดตั้งขึ้นมานั้นจะมีอำนาจทุกอำนาจอยู่ในมือหรือไม่ ถ้ามีก็ไป ไม่มีก็ไม่ไป มันจะไหลเข้าไหลออกอย่างนี้แหละผู้แทนฯ และตอนนี้ลูกพรรคชาติไทยพัฒนายังไม่มีใครถูกทาบทาม
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยประกาศเป็นพรรคอันดับหนึ่ง พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาในการไปหาเสียงที่ทุกพรรคจะบอกว่า ถ้าได้คะแนนเสียงข้างมากจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อถามว่าหากครั้งนี้พรรคพรรคภูมิใจไทยโตได้จริงจะมีผลให้เกิดพลิกขั้วการเมืองได้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตามที่ตนคิดตอนนี้ยังไม่มีใครแยกตัว ยังเข้าใจกัน แม้จะกระทบกันบ้างเป็นธรรมดาของพรรคร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวคิดว่าพรรคภูมิใจไทยจะมาเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งได้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็ประมาทไม่ได้ ในภาคอีสาน ถ้าพรรคเพื่อไทยอ่อนลงเขาก็อาจจะได้คะแนนเสียงมากขึ้น เมื่อถามว่าการเปิดนโยบายเชิงรุกเช่นนี้เปรียบเสมือนว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเร็วๆนี้ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า การเลือกตั้งนั้นทำนายไม่ได้เลย แต่ตนคิดว่ายังไม่มีการเลือกตั้งในระยะนี้ คิดว่ารัฐบาลอยู่ได้ถึงสิ้นปี อย่างน้อยคงหลังตุลาคมไปแล้ว เพราะยังไม่มีเหตุบอกมาว่าจะแยกตัว
เมื่อถามว่า แต่แกนนำพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่านายเนวิน ชิดชอบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ออกมาแสดงความอึดอัดใจและวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เป็นการส่งสัญญาณใดหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีอะไร ธรรมดาของคนอึดอัดก็ระบายออกมาบ้าง เชื่อว่าจะไม่ส่งปัญหาต่อพรรคร่วมรัฐบาล
ต่อข้อถามว่า ถือว่าผิดมารยาทในการอยู่ร่วมกันหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ผิดอะไรมากมาย อึดอัดก็ระบายออกมาบ้าง ไม่ระบายคงระเบิด เมื่อถามว่าควรเป็นการพูดภายในมากกว่าผ่านสื่อหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนไม่เห็นใครพูดภายในสักที เห็นมาผ่านสื่อทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนครในวันที่ 21 มิ.ย.นี้อย่างไร จะเป็นจุดชี้ขาดสำหรับพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนว่าคงจะดู๋ดี๋กัน คงชนะกันไม่มาก ส่วนที่จะเป็นการวัดกระแสความนิยมระหว่างนายเนวิน กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ก็อาจจะเป็นการชี้วัดบ้าง แต่ไม่ 100% แต่ไม่ถึงกับจะเป็นตัวบ่งชี้พื้นที่ภาคอีสาน เพราะมันเป็นแห่งๆไป
เมื่อถามว่า ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้จะเป็นโอกาสก้าวแรกในการคลุมภาคอีสานในอนาคตหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็มีโอกาสชนะ การเลือกตั้งซ่อมที่จ.ศรีสะเกษ ซึ่งผู้สมัครหลายเลข 2 เป็นคนจากพรรคชาติไทยพัฒนา ตรงนั้นเราก็มีโอกาสชนะ เพราะพื้นฐานเดิมเป็นของเราอยู่แล้ว ค่อยๆเคลื่อนไปทีละนิด
ผู้สื่อข่าวถมถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเตรียมขึ้นป้ายโฆษณาชี้แจงประชาชนกรณีรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน และสนับสนุนการเช่ามากกว่าการซื้อ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ซื้อ จะเกิดข้อขัดแย้งหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า คงต้องทำความเข้าใจกัน ทางไหนที่ดีที่สุดก็เลือกทางนั้น คือความถูกต้อง ความจริงถ้าเช่าราคาก็ลดลงมามากแล้ว ซึ่งเกือบเท่ากับที่ตนคิดไว้ ส่วนการซื้อต้องคิดด้วยว่าเราต้องซ่อมเอง และต้องมีการประกันการซ่อม ต่างมีข้อดีข้อเสีย จะออกมาอย่างละเอียดเปรียบเทียบกัน รอดู อย่าเพิ่งคิดว่าจะเช่าตลอด หรือซื้อตลอด การโฆษณาของพรรคภูมิใจไทยคงไม่มีผลไปกดดันการทำงานของบอร์ดสภาพัฒน์ ล้วนแต่มือรุ่นเก่าแล้วทั้งนั้น
เมื่อถามว่า การขึ้นป้ายโฆษณา หรือลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์นั้นจะเป็นการกดดันคณะกรรมการของสภาพัฒน์ที่กำลังพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า สภาพัฒน์ชุดใหญ่ ไม่ใช่ชุดเล็ก ซึ่งตนจะรอดูข้อเสนอว่าอะไรดี เขาจะเสนอความแตกต่างระหว่างการเช่าและการซื้อแล้วอะไรมันดีกว่ากัน ส่วนที่ตนเคยศึกษามานั้นก็ได้เสนอแนะและให้หลักฐานไปให้ ครม.แล้ว แต่ตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นใหม่ตนก็พ้นหน้าที่ อย่างไรก็ตามตอนนั้นชุดตนคิดแต่เช่า ไม่ได้คิดซื้อ ครม.ให้ตนพิจารณาแค่เรื่องเช่าอย่างเดียว ซึ่งราค 6.4 หมื่นนี้ก็พอได้