800 ก็เอา นายทหารบำนาญ ถูกแก๊งตบทรัพย์เรียกเงิน 4 พัน แต่มีติดตัวแค่ 800 บาท
เมื่อวานนี้(13 พ.ค.62) จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพเตือนภัยแก๊งตบทรัพย์ รถเก๋งสีขาวคันหนึ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร เป็นหญิงวัยกลางคนอ้างว่าถูกขับรถเฉี่ยวได้รับความเสียหายแล้วเรียกเงิน 4,000 บาท
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังเหยื่อที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพตบทรัพย์เรียกเงิน คือ ร.ต.ณัฐกรณ์ ภิรมย์สุข ข้าราชการบำนาญสังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา
ได้ขับรถกระบะมาจากบ้านที่ อ.นางรอง คนเดียวเพื่อจะเข้าไปทำธุระในตัวเมืองบุรีรัมย์ แต่พอขับมาถึงบ้านบริเวณบ้านระนามพลวง ต.หนองโสน อ.นางรอง ก็มีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร
ขับแซงหน้าแล้วลดความเร็ว จากนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวก็ขับมาจี้ท้าย เป็นแบบนี้ 2-3 รอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จึงเริ่มรู้สึกแปลกๆ แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร
กระทั่งมีรถกระบะสีน้ำเงินจำยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ขับมาประกบด้านหลังแต่ไม่ยอมแซงหน้า ทั้งที่รถตนเองก็ขับช้าๆ ความเร็วประมาณ 50 – 60 เท่านั้น
แล้วจู่ๆ รถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับไปดักข้างหน้าแล้วลงมาโบกให้ตนเองจอดรถ โดยบอกว่าตนเองขับรถปาดหน้าเฉี่ยวหน้ารถเก๋งของเขาได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งได้เรียกเงินค่าเสียหายจำนวน 4,000 บาท
ตนเองก็รู้สึกงงว่าไปปาดหน้าตอนไหน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ขับปาดหน้า หญิงคนดังกล่าวก็เร่งเร้าให้รีบจ่ายเงินเรื่องจะได้ไม่ถึงตำรวจ ซึ่งตนก็บอกไปว่างั้นไปโรงพักก็ได้ เพราะหากเรียกค่าเสียหายถึง 4,000 บาท ตนก็ไม่มีเงินจะจ่ายให้เพราะมีเงินติดกระเป๋าแค่ 800 บาท
หญิงคนดังกล่าวจึงอ้างว่ามีเท่าไหร่ก็เอามาเพราะจะรีบไปทำธุระที่ จ.อุบลราชธานี จึงได้ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานบอกทางครอบครัวว่ามีเหตุรถเฉี่ยวชนกัน แต่หญิงคนดังกล่าวกลับแสดงอาการไม่พอใจพร้อมบังคับให้ลบรูปออก
ซึ่งตนเองก็รู้สึกแปลกใจเพราะหากบริสุทธิ์ใจจริงทำไมถึงห้ามถ่ายรูปแต่ด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหาจึงยอมควักเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าจ่ายให้ไป 800 บาท แล้วหญิงคนดังกล่าวก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
ร.ต.ณัฐกรณ์ บอกว่าเมื่อกลับไปบ้านก็เล่าให้ภรรยาและโทรศัพท์เล่าให้ลูกฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่เคยก่อเหตุตบทรัพย์ในหลายพื้นที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้แจ้งความตำรวจเพราะเห็นว่าเสียเงินไปไม่มาก
แต่ก็อยากจะเตือนภัยผู้ที่ขับขี่รถไปไหนมาไหนคนเดียว โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้หญิง หากมีเหตุรถเฉี่ยวชนกันจริงก็ควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ หรือช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยจะดีกว่า เพราะนอกจากจะสูญเสียทรัพย์สินแล้วอาจจะเป็นอันตรายกับตัวเองด้วย