หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล โดนจวกเหยียดเพศ! หลังไล่ธนาธรใส่กระโปรง-วิจารณ์ ส.ส. LGBTQ
หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคลวิจารณ์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มีความหลากหลายทางเพศ พรรคอนาคตใหม่ ในวันนี้ (14 พ.ค.) ว่าไม่เคารพธรรมเนียมปฏิบัติของรัฐสภา หลังจากผู้แทนราษฎรกลุ่มนี้ยื่นขอแต่งกายตามเพศสภาพของตัวเอง
>> 4 ส.ส.หลากหลายทางเพศ พรรคอนาคตใหม่ ยื่นขออนุญาตสภา แต่งกายตาม
ไม่ใช่แค่นั้น หม่อมเจ้าจุลเจิม ยังวิจารณ์ลามไปถึงหัวหน้าพรรค นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และเลขาธิการพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าให้ไปใส่กระโปรงตามสมาชิกพรรคของตัวเอง
"ท่าน หัวหน้าพรรค และเลขาพรรค ก็ควรนุ่งกระโปรง ตามลูกพรรคท่านด้วยนะครับ ส่วนประชาสัมพันธ์ ไม่ต้องนุ่งกระโปรง เพราะเห็นแต่นุ่งแต่กางเกง พรรคนี้ดูยังไงๆ ชอบกล ไม่ค่อยเคารพ ขนบธรรมเนียมปฏิบัติ อะไรประมาณนั้น..." หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล โพสต์
เหยียดคนหลากหลายทางเพศ
การระบุของหม่อมเจ้าจุลเจิม ว่าการแต่งกายตามเพศสภาพเป็นการไม่เคารพธรรมเนียมปฏิบัติ สร้างความไม่พอใจต่อชุมชนคนหลากหลายทางเพศและผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนไม่น้อย ซึ่งหลายคนให้เหตุผลว่า การแต่งกายตามเพศสภาพเป็นสิทธิ์เหนือร่างกายของแต่ละคนอยู่แล้ว
ไม่ใช่แค่นั้น หลายความเห็นมองว่า แม้การประชุมรัฐสภามีข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งกายเอาไว้ แต่เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) เป็นเพียงการเดินทางไปรายงานตัว ไม่ได้เข้าไปประชุมสภา จึงน่าจะแต่งกายตามเพศสภาพได้ และ ส.ส. กลุ่มดังกล่าว ยังยื่นขออนุญาตแต่งกายตามเพศสภาพเผื่อไว้ในอนาคตเมื่อมีการเปิดสภา จึงไม่ได้แสดงว่าไม่เคารพธรรมเนียมปฏิบัติแต่อย่างใด
ความเห็นหนึ่งในโลกออนไลน์กล่าวอย่างน่าสนใจว่า ถ้าหาก ส.ส. เหล่านี้ได้รับอนุญาตให้แต่งกายตามเพศสภาพ จะทำให้รัฐสภาดูก้าวหน้าและแสดงถึงการยอมรับคนทุกกลุ่ม ในทางกลับกัน ถ้าหากแต่งกายตามเพศสภาพไม่ได้ รัฐสภาจะกล้าพูดได้อย่างไรว่าเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยจริงๆ
สะท้อนมองหญิง "ต่ำ" กว่าชาย
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนหนึ่งยังมองว่า การแสดงความเห็นของหม่อมเจ้าจุลเจิมเหยียดเพศหญิงอย่างมาก เพราะการไล่ใครให้ใส่กระโปรงได้ เท่ากับว่าผู้โพสต์กำลังให้ค่าเพศหญิงต่ำกว่าเพศชาย และมองว่าการใส่กระโปรงลดทอนความเป็นชายของผู้ที่ถูกพูดถึง
ทั้งนี้การที่ผู้ชายใส่กระโปรงเป็นเรื่องปกติและธรรมดาในหลายวัฒนธรรม อย่างเช่น สก็อตแลนด์ ที่แม้แต่ในยุคปัจจุบัน ผู้ชายก็ใส่กระโปรงในโอกาสต่างๆ อาทิ การแต่งงาน และงานมงคลอื่นๆ
โพสต์ขอโทษ แต่ไม่วายเหยียดเพศหญิง
อย่างไรก็ตาม หม่อมเจ้าจุลเจิม ลบโพสต์ดังกล่าวในเวลาต่อมา และโพสต์ว่าตนไม่มีเจตนากล่าวร้ายต่อคนหลากหลายทางเพศ เพียงแต่ต้องการวิจารณ์นายธนาธรและนายปิยบุตรเท่านั้น แต่คำชี้แจงของหม่อมเจ้าจุลเจิม ยังทำให้มีคนมองว่าเหยียดเพศหญิงเช่นเดิม เพราะวิจารณ์หัวหน้าและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ว่า "หน้าตัวเมีย" ที่สะท้อนความคิดการมองผู้หญิงต่ำกว่าผู้ชายอย่างชัดเจน