"กรีน อัษฎาพร" สุดกลั้น! เปิดใจน้ำตาอาบแก้ม สูญเสียคุณพ่อ ไม่ทันได้พูดแม้คำบอกลา

ต้องสูญเสีย คุณพ่อฉัตรฎรัฐ สิริวัฒน์ธนกุล วัย 59 ปี พ่อผู้เป็นที่รักอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งจากไปด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเศร้าโศกของคนในครอบครัวและญาติสนิท 

โดยล่าสุดทางด้านของนักแสดงสาว กรีน อัษฎาพร ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน ณ บริเวณศาลา 9 วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราวความผูกพันระหว่างเธอกับคุณพ่อ ก่อนเผยว่าอยากให้เรามีเวลาได้พูดคุยกันมากกว่านี้

"วันนี้ก็เป็นวันแรกเลยค่ะ เป็นวันรดน้ำศพของคุณพ่อและก็จะมีฟังสวดพระอภิธรรมศพในช่วงเย็น สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ คุณพ่อท่านต้องเดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัด แต่ด้วยความท่านมีโรคประจำตัว มีโรคหัวใจ และโรคอื่นๆ ตามวัยของท่านอยู่แล้ว ท่านก็เลยเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันค่ะ (สะอื้น) คือกรีนรู้มาตลอดว่าคุณพ่อเป็นแบบนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว และที่ผ่านมากรีนก็พยายามดูแลท่านมาตลอด พยายามหายาบำรุง หาอาหารเสริมมาให้ท่านทาน ขอให้ท่านดูแลสุขภาพตัวเองให้มากๆ"

"ซึ่งก่อนหน้านี้คุณพ่อท่านก็เคยเข้าห้องฉุกเฉินมาหลายครั้งแล้ว และก็รอดกลับมาได้ตลอด แต่ครั้งนี้ทุกอย่างมันเร็วมาก เร็วจนตัวกรีนเองก็งง แต่กรีนก็เข้าใจในความเป็นโรคหัวใจนะคะว่ามันมีโอกาสที่จะเป็นแบบนี้ แค่พอมันมาเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว คนที่เรารัก มันก็ค่อนข้างกะทันหันมากจริงๆ ค่ะ ไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกเลย"

"ตอนที่กรีนทราบข่าวธันวาเขาเป็นคนโทรมาบอกกรีน ซึ่งช่วงนั้นกรีนกำลังทำงานอยู่ เขาก็โทรมาบอกกับกรีนว่า ถ้าเสร็จงานแล้วให้รีบกลับบ้านนะคุณแม่มีอะไรจะบอก กรีนก็พยายามถามเขาอยู่นานแต่เขาก็ไม่บอกกรีนว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งกรีนไปถึงบ้าน คุณแม่ถึงได้แจ้งข่าวกับกรีนว่า "ป๊าเสียแล้วนะ" (ร้องไห้) ตอนนั้นกรีนได้แต่พูดว่า ไม่จริง ทำไม ทำไมป๊าไม่รอกรีนเลย แต่กรีนก็พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ร้องไห้ค่ะ"

เราได้สอบถามไหมว่าช่วงก่อนที่ท่านจะเสีย ท่านทำอะไรอยู่ ?
"เพื่อนๆ ของคุณพ่อที่ทำงานอยู่ด้วยกันที่ใต้ เขาก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ด้วยความที่คุณพ่อเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วและท่านก็ไปทานอาหาร ซึ่งข้างในท่านคงร้อน บวกกับอากาศก็ร้อนด้วย คุณพ่อก็เลยสำรอกออกมา คือทุกอย่างมันเร็วมากจริงๆ จากนั้นพอเพื่อนๆ คุณพ่อพาท่านไปส่งโรงพยาบาล ทางคุณหมอเขาก็ช่วยปั๊มหัวใจอยู่ประมาณ 30 นาที แต่ด้วยความที่ชีพจรของคุณพ่ออ่อนมาก เราก็เลยขอให้ช่วยปั๊มต่ออีก 10 นาที ซึ่งคุณหมอก็ทำให้ แต่ถ้าทำมากกว่านั้นซี่โครงของคุณพ่อจะหัก เนื่องจากบริเวณตรงหัวใจของพ่อมันแดงหมดแล้ว เราก็เลยต้องปล่อยท่านไป"

กรีน และ ธันวา ในพิธีรดน้ำศพคุณพ่อ

เรายังไม่ได้มีโอกาสได้พูดหรือได้ร่ำลาคุณพ่อ ?
"เพราะตอนนั้นเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน และมันก็มีหลายๆ เรื่องที่เราอยากคุย อยากนั่งคุยกัน กรีนอยากบอกกับคุณพ่อทุกเรื่อง อยากบอกรักพ่อ อยากให้พ่อไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับตัวกรีน ให้เราได้คุยกันแบบเปิดใจกัน แต่สุดท้ายเราก็ไม่ทันได้คุยกัน กรีนกับน้องสาวกรีนรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเร็วมาก เราไม่ได้บอกลาท่านเลย"

ช่วงที่รดน้ำศพเห็นว่าเราเดินเข้าไปพูดกับคุณพ่อด้วย ?
"ก็เคาะโลงและบอกกับคุณพ่อว่า กรีนมาแล้วนะ ครอบครัวเราทุกคนมาแล้วนะ มาร่วมส่งคุณพ่อเป็นครั้งสุดท้าย และก็ไม่อยากให้พ่อต้องกังวล อยากให้พ่อหมดห่วงและจากไปอย่างสบายจริงๆ"

เราให้กำลังใจคุณแม่และน้องๆ ยังไงบ้าง ?
"คุณแม่เข้มแข็งกว่ากรีนเยอะเลยค่ะ คุณแม่ร้องไห้น้อยมากเลยถ้าเทียบกับกรีน"

เห็นว่าทางครอบครัวเราเปิดรับบริจาคเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือศพไร้ญาติด้วย ?
"ใช่ค่ะ คือกรีนรู้สึกว่ากรีนไม่อยากให้คนที่มาร่วมงานต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นพวงหรีดเยอะ กรีนอยากให้เขาได้สมทบทุนโดยการช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่า ซึ่งสิ่งนี้ก็คือสิ่งที่คุณพ่อของกรีนสอนมาตลอด ท่านมักจะสอนว่าการเป็นผู้ให้คือผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นผู้รับ ถ้าเราอยากได้รับอะไรจากใคร เราก็ต้องเริ่มต้นที่การเป็นผู้ให้ก่อนค่ะ"

>> "กรีน อัษฎาพร" สูญเสียคุณพ่อ บอกรักไม่ว่าที่ผ่านมาจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม