จบดราม่าไถ่ทอง ร้านทองคืนสร้อยให้ผู้เสียหาย อ้างต้องใช้เงินรักษาหลาน

ความคืบหน้ากรณีร้านค้าทองย่านซอยประชาอุทิศ 10 เขตราษฎร์บูรณะ ที่รับจำนำทองคำผู้เสียหายและรับซ่อมทองรูปพรรณ แต่ไม่สามารถส่งทองคืนผู้เสียหายได้ตามกำหนด ทำให้มีผู้เสียหาย 6 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับร้านค้าทองดังกล่าว

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา มีผู้หญิง 2 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ก่อนที่ตำรวจจะพาเข้าห้องสอบสวนและเชิญ สิบตรี พีระภัทร ถาบรรดิษฐ์ 1 ในผู้เสียหายเข้าไปเจรจา เพื่อจ่ายเงินค่าไถ่ถอนที่เหลือ และรับมอบทองคำหนัก 2 บาทกลับคืน

สิบตรีพีระภัทร บอกว่า เมื่อร้านค้าทองนำทองของตนเองมาคืน ก็ไม่ติดใจเอาความอีก ส่วนผู้หญิงทั้ง 2 คน ที่นำทองมาให้ ยืนยันว่าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และทราบภายหลังว่าเป็นเจ้าหนี้ของเจ้าของร้านทองที่รับเอาทองของตนไปเป็นประกันเพื่อแลกกับเงินจำนวนหนึ่ง

ซึ่งเจ้าของร้านค้าทองบอกว่าจะนำไปเป็นค่ารักษาหลานที่ป่วย ส่วนทองคำของผู้เสียหายรายอื่นๆ ผู้ที่นำมาส่งคืนไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนี้ ต้องรอให้ตำรวจไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

พันตำรวจโทบุญนำ ลบโลกา รองผู้กำกับการสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ บอกว่า ยังมีผู้เสียหายอีก 5 คน ที่ยังไม่ได้รับทองคืน หลังจากสอบสวนปากคำครบแล้ว จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งว่า ทองคำที่รับจำนำไปนั้น ยังอยู่ครบถ้วนหรือไม่

หากพบว่ามีการนำไปขายต่อ ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์ต่อไป ทั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติว่า เคยถูกแจ้งความดำเนินคดีใดอีกหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่าก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายมาร้องเรียนคดีสั่งจ่ายเช็คอีกด้วย

ขณะที่ นายพลกฤษ เรืองสุกใส หัวหน้ากลุ่มงานกำกับสืบสวนและปราบปราม กรมการปกครอง บอกว่า แม้ผู้เสียหายจะไม่ติดใจในคดีนี้แล้ว แต่ก็ยังมีความจำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องที่ได้รับจำนำทอง ว่าทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป