หนุ่มไทยสัญชาติเบลเยียม บินมาตามหาพ่อแม่ที่ไทย หวังเจอหน้ากันสักครั้ง
เรื่องราวดั่งนิยาย ครูสอนเต้นหนุ่มเชื้อชาติไทย แต่ไปเติบโตที่เบลเยียม บินกลับมามาตุภูมิเพื่อตามหาพ่อแม่ หลังพลัดพรากจากกันไปเมื่อ 27 ปีก่อน
ผู้สื่อข่าวได้รายงานเรื่องราวของหนุ่มไทย สัญชาติเบลเยียม ที่พลัดพรากจากพ่อแม่ชาวไทย มาตั้งแต่อายุ 4 เดือน ก่อนจะมีครอบครัวชาวเบลเยียมนำไปเลี้ยงดู เป็นบุตรบุญธรรมนานกว่า 27 ปี ล่าสุดได้บินกลับมาประเทศไทย เพื่อออกตามหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด กลายเป็นเรื่องจริงดังละคร
ชายหนุ่มผู้นี้คือ นายพิษณุ แดเมียม อายุ 27 ปี เป็นชาวไทย สัญชาติเบลเยียม ได้เดินทางมายัง วัดสุดสวาสดิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมกับพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด เพื่อต้องการตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง หลังจากพลัดพรากจากกันตั้งแต่อายุได้เพียง 4 เดือน มีพ่อแม่บุญธรรมชาวเบลเยียมขอไปเลี้ยงดู และหลังเดินทางกลับมาประเทศไทย จึงประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ทราบเรื่องราวถูกนำมาทิ้งไว้ข้างวัดแห่งนี้ เมื่อ 27 ปีก่อน
นายพิษณุ ปัจจุบันไม่สามารถพูดสื่อสารภาษาไทย ทำให้ต้องใช้แอปแปลภาษาแทน โดยเปิดเผยว่า ตนเดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทราบเรื่องจากพ่อแม่บุญธรรมว่า ได้ขอตนมาจากศูนย์รับเลี้ยงเด็กปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตอนนั้นตนอายุแค่ 4 ขวบ และย้ายไปอยู่เบลเยียม กระทั่งเรียนจบระดับปริญญาตรี ปัจจุบันมีอาชีพเป็นครูสอนเต้น มีชื่อเสียงระดับหนึ่งในทวีปยุโรป
สำหรับในวันนี้ตนตั้งใจเดินทางมาตามหาพ่อแม่และญาติพี่น้องที่เป็นชาวไทย โดยได้ไปสอบถามข้อมูลกับศูนย์รับเลี้ยงเด็กที่ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อประมาณ 27 ปีที่แล้ว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองพิษณุโลกได้นำตน ที่ตอนนั้นยังแบเบาะ อายุแค่ 4 เดือนมามอบให้กับทางศูนย์รับเลี้ยงดู ทางศูนย์ฯ จึงได้ตั้งชื่อว่า "พิษณุ" ให้สอดคล้องกับ จ.พิษณุโลก ที่มีคนพบตนอยู่ที่นั่น
นายพิษณุ เล่าต่อว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ตนมีความคิดอยากเจอพ่อกับแม่ที่แท้จริง จึงได้สอบถามพ่อแม่บุญธรรมชาวเบลเยียม และทำการค้นหาข้อมูล กระทั่งทราบรายละเอียดมากขึ้น จึงตัดสินใจเดินทางมาที่ประเทศไทย เพื่อตามหาพ่อแม่ โดยเริ่มต้นจากหาข้อมูลที่บ้านปากเกร็ด จากนั้นก็เดินทางมาที่ จ.พิษณุโลก และเข้าพักที่โรงแรม พร้อมกับสอบถามพนักงานโรงแรม และให้พาไปที่สถานีตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก และได้ไปขอข้อมูลหลักฐานที่ทางตำรวจค้นหาให้
จนกระทั่งทราบว่า ตนถูกนำมาทิ้งตั้งแต่อายุ 4 เดือน บริเวณข้างๆ วัดสุดสวาสดิ์ ก่อนจะให้ทางพนักงานขับรถโรงแรมพามาที่วัดสุดสวาสดิ์แห่งนี้ เพื่อสอบถามและหาข้อมูลอีกทาง ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นและการค้นหาเริ่มแคบลง แต่ก็ไม่ทราบว่าจะสืบค้นอย่างไรต่อไปหลังจากนั้น จึงต้องมาขอสอบถามข้อมูลจากทางเจ้าอาวาสวัด เผื่อเป็นแนวทางในการติดตามค้นหาพ่อแม่อีกทาง
นายพิษณุ ยังบอกว่า การค้นหาพ่อและแม่ครั้งนี้ ถือว่ามีความคืบหน้าอย่างมาก แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้อันน้อยนิดที่ตนจะได้เจอพวกเขา แต่ก็ยังไม่ละทิ้งความหวังที่จะได้เจอกัน โดยหลังจากนี้อีก 1-2 วัน ตนก็จะเดินทางกลับประเทศเบลเยียมแล้ว แต่ในช่วงปลายปีนี้ ตนตั้งใจว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อตามหาพ่อแม่ให้เจอจนได้
ขณะที่ พระครูประภัศร์โสติถิคุณ เจ้าอาวาสวัดสุดสวาสดิ์ กล่าวว่า หลังจากฟังเรื่องราวของชีวิตของนายพิษณุแล้ว ก็รู้สึกเห็นใจตามนิสัยคนไทย อยากจะช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้ แม้ว่าในช่วงนั้นตนยังไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัด แต่หลังจากนี้ทางวัดก็จะประกาศเสียงตามสาย พร้อมประสานไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านให้สืบหาและสอบถามลูกบ้านถึงเรื่องราวของนายพิษณุ ที่ต้องการตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง เพื่อให้เป็นลู่ทางหรือมีข้อมูลในการสืบหาพ่อและแม่ที่แท้จริงต่อไป
ทั้งนี้ หากผู้ใดมีเบาะแสข้อมูลหรือต้องการช่วยเหลือในการค้นหาพ่อแม่ของนายพิษณุ ก็สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เฟซบุ๊กส่วนตัว Donnez Pisanu หรือ โทรศัพท์ 092-2694066 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่บ้านปากเกร็ด