รปภ.ว่าที่นิสิตจุฬาฯ แอบใจหายยื่นใบลาออก คนแห่มาให้กำลังใจเพียบ

รปภ.ว่าที่นิสิตจุฬาฯ แอบใจหายยื่นใบลาออก คนแห่มาให้กำลังใจเพียบ

รปภ.ว่าที่นิสิตจุฬาฯ แอบใจหายยื่นใบลาออก คนแห่มาให้กำลังใจเพียบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้องวี รปภ.เรียนเก่ง ว่าที่นิสิตจุฬาฯ รู้สึกใจหายมาทำงานเป็นวันสุดท้าย ก่อนกลับบ้านเตรียมตัวไปมอบตัว เข้ากรุงเทพฯ เริ่มเรียนคณะสัตวแพทย์ ภูมิใจได้เป็นแบบอย่างของคนสู้ชีวิต

(17 พ.ค.) น้องวี นายวีรพงศ์ แซ่หาญ อายุ 18 ปี เด็กนักเรียนคนเก่งจากโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม จังหวัดน่าน ว่าที่นิสิต คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปีการศึกษา 2562 นี้ โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (17 พ.ค.) น้องวียังคงเดินทางมาทำงานที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร พร้อมกับชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยตามปกติ

สำหรับในวันนี้จะเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของน้องวี เนื่องจากได้ยื่นใบลาออกล่วงหน้า 1 เดือนไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ทราบข่าวว่าตัวเองสอบได้ที่คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ ทางหัวหน้างานและเพื่อนๆ ร่วมงานก็ยินดีกับความสำเร็จของน้องวี และภาคภูมิใจแทนน้อง พร้อมยกย่องให้เป็นต้นแบบของคนสู้ชีวิต ไม่เกี่ยงงานไม่ว่าจะทำอาชีพไหน

>> เปิดใจ "ยามเฝ้าวัด" ว่าที่นิสิตจุฬาฯ เตรียมลาออก มุ่งเรียนสัตวแพทย์

แม้จะเป็นการทำงานวันสุดท้าย แต่น้องวีก็ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในอาชีพ รปภ. แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 2 เดือนกว่าเท่านั้น แต่น้องวีบอกว่ารู้สึกใจหายที่จะต้องมาทำงานเป็นวันสุดท้าย เนื่องจากถือเป็นอาชีพแรกในชีวิตที่ตัวเองได้ทำงานอย่างเต็มตัวและตั้งใจ ได้คอยให้บริการผู้คน-นักท่องเที่ยว และมีเพื่อนร่วมงานที่ดีมีความสุขกับการทำงานทุกวัน จนถึงวันสุดท้าย

ทั้งนี้ น้องวี ยังได้กล่าวถึงประเด็นความโด่งดัง หลังจากเรื่องราวของตัวเองกลายเป็นข่าว ก็พบว่ามีผู้คนเข้ามาชื่นชมและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก บางคนมาขอถ่ายภาพด้วย ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันมา ทำให้ตนรู้สึกเขินอายบ้าง แต่ก็ขอบคุณและทำให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นแบบอย่างของรุ่นน้องในการประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะมีฐานะไหนก็ตาม

ส่วนเรื่องของการรับทุนการศึกษานั้น ตนอยากขอชี้แจงให้เข้าใจว่า ทุนที่ตนจะได้รับนั้น มี 2 ทุนที่ตนสามารถรับได้ โดยทุนหลักที่ต้องได้รับคือ ทุนจุฬาฯ ชนบท ประเภท ก. ซึ่งจะให้ทุนทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าชุดนิสิตนักศึกษา ค่าเทอม ค่าพยาบาล และหอพัก ถือเป็นทุนหลัก

โดยตนเองได้รับมานั้นเพราะผลคะแนนสอบที่ยื่นสมัครในมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่ง จนได้รับซึ่งทุนนี้จะต้องผ่านเกณฑ์ ในการสอบเข้าด้วยคะแนนที่ทำได้ด้วยจึงจะได้สิทธิ์ในการรับทุนนี้ในการศึกษาต่อ

ส่วนอีกทุนเป็นทุนของมูลนิธิโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งจะเป็นทุนที่จะช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างเต็มจำนวน รวมไปถึงเรื่องของภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อย่าง ค่าอุปกรณ์การเรียน หรือค่าทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งตรงนี้จะต้องไปพูดคุยดูกฎระเบียบว่าสามารถรับพร้อมกันทั้ง 2 ทุนได้หรือไม่ หากได้ทุนหลังก็จะมาช่วยเสริมเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเรียนเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้จะเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของตน หลังจากนี้จะเดินทางกลับไปที่บ้านในอำเภอท่าวังผา เพื่อเตรียมตัวและไปรับแม่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยกัน โดยมีกำหนดเข้าค่ายปรับระดับของคณะ ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ โดยทั้งหมดก็จะใช้เงินจากการที่มาทำงานเป็น รปภ. และถือเป็นการแบ่งเบาภาระของแม่ไปด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook