AIS ประกาศความสำเร็จในฐานะตัวแทนประเทศไทย ขึ้นแท่นอันดับ 1 “แบรนด์โทรคมนาคมที่แข่งแกร่งที่สุดในโลก”
นับเป็นการสร้างหน้าประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของวงการโทรคมนาคมไทย ที่ล่าสุดมีข่าวดีว่า AIS ได้รับการจัดอันดับเป็น “แบรนด์โทรคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก อันดับ 1 – World’s Strongest Telecom Brand” ประจำปี 2019 โดย Brand Finance องค์กรที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และคุณค่าของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ยืนหนึ่งเป็นแบรนด์ไทยหนึ่งเดียวใน 10 อันดับแรก และเฉือนชนะแชมป์เก่าอย่าง China Mobile ได้
จากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกจากบริษัทในกลุ่มโทรคมนาคม 300 บริษัท ทั่วโลก Brand Finance ในฐานะองค์กรอิสระด้านการประเมินค่าธุรกิจที่เชื่อมโยงปัจจัยด้านการตลาดและการเงิน ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ ทดสอบ และวัดผลจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงที่ได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นจากองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องกว่า 23 ปี ได้ลงคะแนนดัชนีความแข็งแกร่งของแบรนด์ หรือ Brand Strength Index (BSI) ของ AIS อยู่ที่ 90/100 (ก้าวกระโดดจากปีที่ 2018 ที่ได้ประเมิน 87.9 คะแนน) รวมทั้งประเมินให้ Rating AAA+ ทำให้ AIS เป็นแบรนด์ไทยหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่ได้รับเรทติ้งสูงสุดระดับนี้
ปัจจัยสำคัญในการประเมินความแข็งแกร่งของแบรนด์ในครั้งนี้ ประกอบด้วยหลายด้าน คือ
- การใช้งบประมาณทางการตลาดที่สมเหตุสมผล และสร้างประโยคต่อลูกค้าอย่างยั่งยืน
- การบริหารจัดการผลประโยชน์ให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างมีประสิทธิภาพ
- ความสามารถในการบริหารจัดการองค์กรทั้งในแง่การลงทุน การสร้างรายได้ และผลประกอบการ รวมถึงผลตอบแทนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
- การขยายธุรกิจต่อยอดเพื่อการเติบโตระยะยาว
ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจในภาพรวม 29 ปีที่ผ่านมาของ AIS ที่ครองอันดับ 1 ของผู้ให้บริการที่มีฐานลูกค้ามากที่สุดในประเทศไทยตลอดมา โดยเน้นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกกลุ่ม ฐานกำไรสุทธิในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท (จากผลประกอบการในไตรมาส 1/2562 ของบริษัท มีกำไรสุทธิ 7,615 ล้านบาท มีลูกค้า 4G ขยายตัวเพิ่มต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 63 ของฐานลูกค้ารวมทั้งหมด 41.5 ล้านเลขหมาย มีการใช้งานดาต้าเพิ่มเป็น 11.4 กิกะไบต์)
นอกจากนี้ จุดเด่นสำคัญที่ได้รับการกล่าวถึงคือ การต่อยอดไปสู่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูง ตาม วิสัยทัศน์ก้าวสู่การเป็น Digital Life Service Provider หรือผู้ให้บริการดิจิทัลของไทย แม้เป็นธุรกิจใหม่ แต่สร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานชิ้นโบว์แดงในการสร้างปรากฎการณ์ปิดไตรมาสแรก ปี 62 มีจำนวนลูกค้าอยู่ที่ 795,000 ราย ครอบคลุมการใช้งานในพื้นที่ 57 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีลูกค้าเพิ่มขึ้นจำนวน 64,500 ราย สูงที่สุดในรอบ 7 ไตรมาส
ขณะเดียวกัน AIS ได้มุ่งสู่แหล่งรายได้ใหม่บนดิจิทัลเซอร์วิส โดยเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ไตรมาสแรก ปี 2562 ที่ผ่านมา AIS เปิดตัวบริการ AIS Insurance Service เพื่อดำเนินธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์ และการพัฒนาบริการ Mobile Money ภายใต้ความร่วมมือกับ LINE และ VGI ให้บริการ Rabbit LINE Pay ซึ่งปัจจุบันมียอดมีลูกค้าลงทะเบียนเพื่อใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ภาพรวมมูลค่าแบรนด์ของ AIS มีความแข็งแกร่งเป็นอันดับ 1 ของโลกในปี 2019 ได้ และเพื่อเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งและความสำเร็จในครั้งนี้ AIS ได้เปิดตัว “ลิซ่า” หนึ่งในสมาชิกวง BLACKPINK เกิร์ลกรุ๊ปจากวงการ K-POP ที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวเอไอเอสในฐานะพรีเซนเตอร์เดี่ยวครั้งแรกของเมืองไทย ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นและความพยายามจนในที่สุดได้พิสูจน์ศักยภาพในฐานะคนไทยที่สร้างชื่อเสียงอยู่ในระดับโลกได้สำเร็จ
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวถึงรางวัลความสำเร็จของ AIS ที่ก้าวสู่เวทีโลกครั้งนี้ว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะบริษัทเอกชนผู้ให้บริการโทรคมนาคมไทยเพียงรายเดียวที่ได้รับการจัดอันดับจาก Brand Finance ซึ่งการได้รับการจัดอันดับครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และเป็นกำลังใจในการพัฒนาองค์กรให้แข็งแกร่ง พร้อมรับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดจาก Digital Disruption อย่างต่อเนื่อง โดยเรายืนยันว่า บุคลากรทุกคนจะยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อลูกค้า
“และแม้จะยืนอยู่ในตำแหน่งผู้นำ แต่ก็จะไม่หยุดพัฒนาขีดความสามารถ พร้อมเพิ่มเติมองค์ความรู้ใหม่ๆ รวมถึง ลงทุนและนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาประยุกต์ใช้เสมอ เพราะนอกจากจะเป็นการพัฒนาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมโดยรวมอีกด้วย รางวัลดังกล่าวมิใช่เพื่อ AIS เท่านั้น แต่เป็นรางวัลที่สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทและขีดความสามารถขององค์กรภาคเอกชนไทยที่ปักหมุดสร้างชื่อเสียงไว้บนเวทีโลก และเป็นบทพิสูจน์ถึงศักยภาพของภาคเอกชนไทยที่พร้อมเป็นกำลังหลักในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภาพใหญ่ของประเทศต่อไป”
(Advertorial)