"หญิงหน่อย" ขุดภาพร่วมพฤษภาทมิฬ ลั่นยุคนี้เลวร้ายกว่า ประกาศไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ

"หญิงหน่อย" ขุดภาพร่วมพฤษภาทมิฬ ลั่นยุคนี้เลวร้ายกว่า ประกาศไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ

"หญิงหน่อย" ขุดภาพร่วมพฤษภาทมิฬ ลั่นยุคนี้เลวร้ายกว่า ประกาศไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(18 พ.ค.62) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Sudarat Keyuraphan โดยมีเนื้อหาดังนี้...

รูปนี้ เมื่อ 27 ปีที่แล้วค่ะ
ขอคารวะต่อดวงวิญญาณของนักสู้
ผู้องอาจทุกท่าน

เมื่อวานนี้ 17 พฤษภาคม ถือเป็นวันครบรอบ 27 ปีของเหตุการณ์พฤษภา35 ที่พลังประชาชนได้ออกมาขับไล่เผด็จการที่ยึดอำนาจจากประชาชน แล้วใช้การเลือกตั้งเป็นข้ออ้างชุบตัวเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป

ไม่น่าเชื่อว่าแม้จะผ่านมา 27 ปีแล้ว แต่เราก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิม ในวันนี้ พวกรัฐประหารยึดอำนาจจากประชาชน เขียนรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อไปสู่การเลือกตั้ง โดยใส่กติกาที่เอื้อให้ตนเองสืบทอดอำนาจต่อ ยิ่งกว่านั้นยังเขียนกติกาให้ตัวเองมีอำนาจแต่งตั้ง สว. 250 คน เพื่อการันตีการสืบทอดอำนาจ.

และเหลือเชื่อว่าคนที่เป็นกำลังหลักในการทำการรัฐประหารเมื่อครั้งพฤษภา35 แทบจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับรัฐประหารเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา

เวลาไม่ได้ทำให้ความคิดของคนเหล่านี้เปลี่ยนแม้แต่น้อย!! เพียงแต่ครั้งนั้นคนเหล่านี้ยังมียศน้อยจึงเป็นเพียงผู้ปฏิบัติการ แต่ครั้งนี้ได้เติบโตยิ่งใหญ่ จึงเป็นตัวการในการยึดอำนาจจากประชาชนเสียงเอง

ผิดกันแต่ ในครั้งนี้ พ.ศ.2562 เลวร้ายกว่า พ.ศ.2535 มาก ถือว่าไม่เห็นหัวประชาชนเลย ไม่สนใจว่าการกระทำต่างๆ จะขัดหลักการประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และลิดรอนสิทธิของประชาชนเพียงใด

แม้จะอ้างได้ว่า รัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้ว แต่ก็ผ่านแบบปิดหู ปิดตา ปิดปากประชาชน ไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจอย่างถ่องแท้ในทุกด้าน คนออกไปรณรงค์ออกเผยแพร่เนื้อหาในรัฐธรรมนูญที่แตกต่างจากผู้มีอำนาจกลับถูกจับติดคุกหลายคนโดยเฉพาะ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ทั้งยังเขียนบทเฉพาะกาลให้การกระทำของคณะรัฐประหารทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ชอบด้วยกฎหมาย และรัฐประหารทั้งสิ้น เป็นการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งข้ามกาลเวลา

รวมทั้งการใช้อำนาจ ม.44 ปลด เปลี่ยน ตั้ง ต่ออายุกรรมการในองค์กรอิสระที่สำคัญ ทั้ง ป.ป.ช. ก.ก.ต. ศาลรัฐธรรมนูญโดยมีปัญหาว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือให้คนใกล้ชิดเข้าไปทำหน้าที่หรือไม่

เลื่อนการเลือกตั้งนับครั้งไม่ถ้วน แต่พอมีการเลือกตั้ง ก็มีปัญหาว่าได้เป็นไปอย่างสุจริต ยุติธรรม และเสรีจริงหรือไม่ มีการเสนอข่าวว่า มีการร้องว่ามีใช้อำนาจบีบบังคับนักการเมืองท้องถิ่น ให้เข้ามาช่วยสนับสนุนตน ข่มขู่คู่แข่งและผู้สนับสนุนโดยการใช้ทั้งอิทธิพลและคดีความ ใช้อำนาจรัฐทำโครงการประชานิยมแจกเงินสารพัด ทั้งที่อยู่มาเกือบ 5 ปี ไม่คิดจะทำจริงหรือไม่

ตลอดช่วงเวลาการเลือกตั้ง มีผู้สมัครหลายรายไปร้องเรียน ทั้งเรื่องการซื้อเสียงอย่างโจ่งครึ่ม การใช้อำนาจรัฐโกงการเลือกตั้งสารพัดมากมาย

ทำขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังแพ้พรรคเพื่อไทยที่ส่งเพียง 250 เขตเท่านั้น เมื่อแพ้จึงต้องใช้อภินิหารจากองค์กรอิสระต่างๆ

ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น ไม่ว่าจะเป็น การนับคะแนน การประกาศผลคะแนน ที่ล้วนแปลกประหลาดและไม่สามารถอธิบายประชาชนได้ ทั้ง #บัตรเกิดใหม่ในหีบ #บัตรเขย่ง #บัตรที่ระลึก

โดยเฉพาะสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคซึ่งได้คะแนนต่ำกว่าคะแนน ส.ส.พึงมี คือ 71,000 คะแนนก็ได้ 1 ที่นั่ง รวม 10 กว่าพรรคที่เขาเรียกกันว่า #สส_เอื้ออาทร ได้รวมตัวกันสนับสนุนนายกสืบทอดอำนาจ ยิ่งไปกว่านั้นคือ ส.ว. อีก 250 คน ส่วนใหญ่มาจาก #สว_วงศาคณาญาติ และเพื่อนพวกพ้อง

ทำถึงขนาดนี้ ยังได้เสียงเพียง 135 ที่นั่ง แต่จะเป็นนายกฯ ให้ได้ ด้วยเสียง ส.ว. ที่ประชาชนไม่ได้เลือก

#เอากันให้สบายใจค่ะ ขณะที่ผลการเลือกตั้งได้สะท้อนเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ชัดเจนว่าต้องการการเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ แต่เสียงของประชาชนกลับไม่มีความหมาย “การเลือกตั้งจึงเป็นเสมือนเพียงพิธีกรรมชุบตัวเผด็จการ”

ในสถานการณ์เช่นนี้นักการเมือง พรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยต้องอดทนให้ได้นะคะ

AFP

พี่น้องคะ ดิฉันเคยประกาศเจตนารมณ์ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งที่ลานโพธิ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การเข้าไปเพื่อแสวงหาอำนาจ หาตำแหน่งต่างๆ แต่จะต้องเข้าไปทำงานเพื่อให้ประชาธิปไตยได้กลับมาลงหลักปักฐานอีกครั้ง

เราพร้อมที่จะทำงานอย่างหนัก ด้วยความเสียสละ เพื่อขจัดอุปสรรคที่ขวางกั้นการพัฒนาประเทศ #เอาเผด็จการแปลงร่างออกไป และนำพาประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และหลักการบ้านเมืองที่ดีที่ถูกต้องกลับคืนมา เพื่อให้เศรษฐกิจปากท้องและสิทธิเสรีภาพของประชาชนดีขึ้น

พี่น้องคะ “โอกาสของประเทศ สำคัญมากกว่าโอกาสของเพื่อไทย”

โอกาสของประชาธิปไตยที่จะได้กลับมาลงหลักปักฐานให้มั่น คือภารกิจสำคัญยิ่งกว่าการแสวงหาอำนาจทางการเมือง

“เพื่อไทยยอมเสียสละ” เพื่อไม่ให้เป็น เงื่อนไขในการต่อรองทางการเมืองใดๆ ขอเพียงประเทศเดินหน้าได้อย่างถูกต้อง

ดิฉันขอประกาศว่า “จะไม่รับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น” และขอให้ทุกพรรคการเมืองที่เคยประกาศไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจเผด็จการมาร่วมกัน นำพาประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของเรากลับคืนมา นำความสุข และความหวังกลับคืนสู่ประชาชน

ขอเพียงพรรคขั้วที่ 3 ตัดสินใจเลือกข้างประชาชน อย่างที่เคยพูดไว้ตอนหาเสียง เราก็จะ #เอาเผด็จการแปลงร่างออกไป ด้วยเสียงผู้แทนราษฏรของเราได้แล้วค่ะ

ดิฉันขอกราบขอบพระคุณทุกกำลังใจ จากพี่น้องประชาชน ขอขอบพระคุณ ส.ส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่พร้อมเสียสละเพื่อบ้านเมือง

ขอคารวะทุกดวงจิตที่มีอุดมการณ์อันแน่วแน่ ตั้งแต่ครั้งพฤษภา 35 จนถึงปัจจุบัน แม้หนทางข้างหน้ายังมีขวากหนามอีกมาก ดิฉันขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นค่ะว่า การยืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้องจะทำให้เรายืดอกได้อย่างภาคภูมิใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด และบ้านเมืองของเราจะก้าวหน้าไปได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน สังคมมีความถูกต้อง ยุติธรรม แล้วสิ่งเหล่านี้จะทำให้ ประชาชน มีความสุข มีความมั่นใจในอนาคตของตนและลูกหลาน.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook