คลิป "มงคลกิตติ์" ประกาศกร้าว! ฟ้องหมิ่นประมาทให้มากที่สุด เพื่อหาเงินเข้าพรรค

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ประกาศดำเนินคดี ฟ้องหมิ่นประมาททุกคน ลั่นเป็นวิธีหาเงินเข้าพรรค

เจ้าตัวโดยชี้แจงว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรค จำเป็นต้องฟ้องแฟนเพจ และสื่อมวลชนบางกลุ่ม ที่นำเสนอเรื่องของตนกล่าวอ้างว่าตนถูกยิง จนต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู ข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบต่อพรรคเป็นอย่างมาก ถือเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ และอาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะข่าวนี้กระทบต่อการตัดสินใจของตน ต่อการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาด้วย พร้อมยืนยันว่ากรณีนี้ตนมีความจำเป็นต้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และอาญา

และแจ้งเตือนว่า หากมีการ หมิ่นประมาท เหยียดหยามตน ครอบครัว หรือเหยียดหยามพรรค ก็จะต้องดำเนินคดี แม้จะมีผู้ถูกดำเนินคดีเป็นพันคนก็ตาม เพื่อจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่าง หรือไปกระทำการในลักษณะดังกล่าวกับบุคคลอื่น

ที่ผ่านมาตนเคยดำเนินคดีข้าราชการ หรือนักการเมืองมาแล้วหลายร้อยคน ขณะนี้ทีมงานฝ่ายกฎหมายมีความพร้อมทั้งในทางแพ่ง และอาญา ใครที่วิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือหมิ่นประมาท จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดโดยจะไม่มีการยอมความ

>> "มงคลกิตติ์" ขึ้นโรงพักแจ้งหมิ่นประมาท คนดังและนักการเมือง กว่า 50 ราย

นายมงคลกิตติ์ ฝากไปยังสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ หมื่นกว่าคน ถ้าใครเห็นว่ามีการดูหมิ่นเหยียดหยามหัวหน้าพรรค ดูหมิ่นเหยียดหยามกรรมการบริการพรรค หรือผู้สมัครของพรรค และดูหมิ่นเหยียดหยามโลโก้พรรค จะต้องดำเนินคดีทั่วประเทศ โดยทางพรรคจะมีใบมอบอำนาจให้

"ดำเนินคดีอาญาประกอบแพ่ง อย่างน้อยก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่หารายได้เข้าพรรค" นายมงคลกิตติ์กล่าว พร้อมอธิบายว่า ตอนนี้ใครที่โพสต์ด่าตนและพรรค ขอให้รีบไปลบซะ เพราะหากลบไม่ทันแล้วทีมงานไปพบเจอ จะดำเนินคดีทางกฎหมายทันที 

หากคดีถึงชั้นอัยการก็จะขอค่าถอนคดีคนละ 200,000 บาท แบ่งให้ผู้ฟ้อง 100,000 และบริจาคให้พรรคอีก 100,000 บาท และยืนยันว่า "ฟ้องให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้" โดยไม่มีการละเว้น

ส่วนกรณีศิษย์เก่าที่ระดมชื่อถอดถอนตน จากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็จะดำเนินคดีเช่นกัน "น้องอยากถอดถอนได้ ก็ถอดถอนไป แต่พี่ดำเนินคดีน้อง น้องจะได้รู้ว่าการถูกดำเนินคดีอาญามันเป็นยังไง" นายมงคลกิตติ์กล่าวย้ำ และระบุว่ากรณีนี้ใช้ข้อตกลงเดียวกันคือถ้าให้ถอนคดีในชั้นอัยการต้องจ่าย 200,000 บาท และแบ่งให้เป็นเงินบริจาคพรรคเช่นกัน