หนุ่มฟันยับห้องฉุกเฉิน โดน 4 ข้อหาหนัก ประณามทำเครื่อง EKG พัง
ตำรวจคุมตัวหนุ่มแค้นคับอก บุกฟันคู่อริต่อถึงห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ยอมรับผิดและขอโทษหมอ-พยาบาล โลกโซเชียลประณามต้นตอทำเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจพัง
จากกรณีคนร้ายบุกตามมาทำร้ายคู่อริซ้ำถึงห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลเหล่าเสื้อโก้ก กลายเป็นเหตุชุลมุนวุ่นวายยกใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว นายธนกฤติ อายุ 41 ปี พร้อมกับอาวุธมีปังตอเอาไว้ได้ เนื่องจากโกรธแค้นที่ทะเลาะวิวาทกันมาตั้งแต่หน้าเวทีหมอลำ แต่ยังไม่สาแก่ใจจึงตามมาทำร้ายซ้ำอีก
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายปรีดา อายุ 27 ปี มีบาดแผลบริเวณใบหน้าและศีรษะ อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมจากการถูกทำร้ายซ้ำ ล่าสุดในวันนี้ (20 พ.ค.) พ.ต.อ.ธรรมจักร คงมงคล รอง ผบก.ภ.จ.อุบลฯ ได้เดินทางไปสอบปากคำนายธนกฤติ ผู้ก่อเหตุแ ละนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่โรงพยาบาล
โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทั้งหมด 4 ข้อหา ได้แก่ มีอาวุธมีดและพกอาวุธมีด, บุกรุกในสถานที่ราชการ, พยายามฆ่า และทำให้ทรัพย์สินของราชการเสียหาย ซึ่งมาตรการตรงนี้ไม่อยากให้เกิดเหตุเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะฉะนั้นต้องดำเนินคดีในการกระทำความผิดของผู้ต้องหา
>> เปิดศึกตีกันหน่าฮ่าน ยังไม่หายแค้น คว้าปังตอมาตามฟันถึงห้องฉุกเฉิน
นายธนกฤติ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขึ้นไปประกาศที่หน้าเวทีหมอลำซิ่งไปแล้วว่า ตีกันแล้วหมอลำจะยุติแค่นี้หรือจะให้เล่นต่อ ถ้าให้เล่นต่อก็ขอให้เลิกตีกัน แต่ก็ยังไม่หยุดตีกันอีก หมอลำเล่นได้ไม่ถึง 10 นาที กลุ่มผู้ก่อเหตุชุดเดิมก็ยังตีกันซ้ำ
ตนก็เลยขึ้นไปประกาศบนเวทีอีกว่า ในนามที่ผมเป็นเจ้าภาพ ขอให้หมอลำหยุดเล่น แล้วก็เลยพูดออกไปว่า กินข้าวหม้อเดียวกัน ก็ยังมาตีกัน "ถ้าใครอยากตี ให้มาตีกับพี่ พี่จะนั่งให้ตี" ตนก็เลยมานั่งอยู่ด้านหน้าเวทีสักพักก็มีคนวิ่งมาเตะ ตนก็ไม่สู้ สักพักก็มีลูกน้องวิ่งไปตีกัน ตนจึงลุกขึ้นเห็นขวดเบียร์ก็เลยจับฟาดใส่ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป
แต่ด้วยความโมโหที่สะสมอยู่ ตนก็เลยแวะไปเอามีดที่ร้านลาบ แล้วตรงมาที่โรงพยาบาล ก่อนจะก่อเหตุใช้มีดฟันใส่หัวหลังจากนั้นก็เกิดการฉุดกระชากกันอีก ตนก็ฟันไปอีก 3 ครั้ง หลังจากนั้นตนก็ออกมายืนอยู่หน้าห้อง ไม่ได้วิ่งไป พอดีกับรถตำรวจที่ตามมาจากงาน ผมก็เลยเรียกพี่เขาว่า "ผมขอมอบตัว"
ทางด้าน พญ.ธรรมพร ปรัสพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเหล่าเสือโก้ก ระบุว่า ในด้านขวัญกำลังใจที่ผู้เสียหายมาขอโทษก็จะรับเอาไว้ไปบอกเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ในส่วนของกฎหมายเป็นไปตามข้อปฏิบัติ แต่เหตุที่เกิดขึ้นก็ทำให้เครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) พังเสียหายไป 1 เครื่อง มูลค่าประมาณ 225,000 บาท