คำสารภาพ มือปืนยิงเซียนพระดับคาเซเว่น ปมแค้นยืมเงิน 5 พันแล้วไม่คืน

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในสังกัดกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1, ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี แถลงข่าวการจับกุมตัว นายกรั่มคาน ปาทาน อายุ 60 ปี ชาวบ้าน อ.เมืองสระบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสระบุรี ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับ อนุญาตหรือไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ

>> พนักงานช็อก ลูกค้ายืนคุยกันก่อนชักปืนยิง 3 นัด หนุ่มใหญ่นอนตายหน้าเคาน์เตอร์

>> ออกหมายจับ "มือปืน 3 นัด" ยิงดับหน้าเคาน์เตอร์ร้านเซเว่น มุ่งปมธุรกิจมืด

จากกรณีที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 เวลา ประมาณ 05.20 น. ได้เกิดเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ นายปรีชา อายุ 59 ปี อาชีพเซียนพระ จนเสียชีวิตคาที่ ในร้านสะดวกซื้อ ด้านหน้า รพ.สระบุรี ถ.เทศบาล 4 ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นาย กรั่มคาน หรือ หรั่ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับ

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 62 ชุดจับกุมได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับ ว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปซุกซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.วิหารแดง จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ นายกรั่ม อยู่ที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว มีตำหนิรูปพรรณสัณฐานตรงตามรายละเอียดหมายจับ จึงได้แสดงตัวจับกุม

ด้าน พล.ต.ท.อำพล เปิดเผยว่า มูลเหตุของการทะเลาะวิวาทกัน มาจากการที่ผู้ตายได้ขอยืมเงินผู้ต้องหาเป็นจำนวน 5,000 บาท โดยคาดว่าในวันเกิดเหตุน่าจะมีปากเสียงกันทำให้บันดาลโทสะดังกล่าว

ทั้งนี้ นายกรั่มคาน ให้การว่า ตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับจริง โดยในชั้นจับกุมขอให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาทั้งหมด ส่วนมูลเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้เนื่องจากผู้ตายยืมเงิน ซึ่งได้ล่วงเลยระยะเวลาคืนมานานแล้ว เมื่อไปทวงถามผู้ตายก็ได้ด่าทอถึงบุพการี รวมถึงยังพูดท้าทาย ทำนองว่า หากตนเองมีปืนจริงก็ให้นำออกมายิง จึงลงมือก่อเหตุ ส่วนปืนนั้น ยอมรับว่าเป็นของตนเองจริง แต่ไม่ได้เตรียมมาใช้ก่อเหตุ ซึ่งสาเหตุที่ต้องพกติดตัวไว้เพราะก่อนหน้านี้ได้ถูกผู้ตายขู่ว่าจะทำร้าย ทำให้ต้องพก และขึ้นลำกล้องไว้ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศขณะที่มีการแถลงข่าวและทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้นพบว่ามีประชาชนจำนวนมากกว่า 100 คน ได้เดินทางมาเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น