นักศึกษาปี 2 ทำงานหาเงินเรียน เคราะห์ร้ายพลุระเบิดใส่ ต้องตัดแขนขารักษาชีวิต

นักศึกษาปี 2 ทำงานหาเงินเรียน เคราะห์ร้ายพลุระเบิดใส่ ต้องตัดแขนขารักษาชีวิต

นักศึกษาปี 2 ทำงานหาเงินเรียน เคราะห์ร้ายพลุระเบิดใส่ ต้องตัดแขนขารักษาชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โลกออนไลน์แชร์เกี่ยวกับเรื่องของ นายจิรพงศ์ ยินดี นักศึกษา วัย 21 ปี แผนกช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี ปวส.ปี 2 ใช้วันหยุด ออกไปทำงานหารายได้พิเศษ เพื่อมาเป็นค่าเล่าเรียน เกิดอุบัติเหตุโดนพลุระเบิดใส่ที่ขาและแขนอาการสาหัส ที่แถวหนองปรือ ขณะนี้อยู่ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา แพทย์แจ้งญาติว่า ต้องตัดขา 2 ข้าง และแขน ขณะนี้อยู่ในห้องไอซียู

จากเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี พบ นายจิรพงษ์ นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ชั้น 3 ตึกสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสัวรสกลมหาปรินายก ในสภาพไร้สตินานกว่า 15 วัน สภาพอาการบาดเจ็บ ตัดขา 2 ข้าง ตัดแขนซ้าย ไม่รู้สึกตัว

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามข้อเท็จจริงจากญาติที่เฝ้า คือ นางสุกฟ้า เซี่ยงว่อง อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นยายของ นายจิรพงศ์ ยินดี หรือ น้องยิ๊ว ได้เล่าว่า ช่วงเย็นวันที่ 5 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา หลานชายไปทำการทดสอบพลุดอกไม้ไฟที่ไปใช้ประกอบพิธีต่างๆ กับเพื่อนๆ

แต่เกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน พลุดอกไม้ไฟลูกหนึ่งเกิดแตกระเบิดใส่เข้าที่ตัว ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว รู้สึกเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลานชายเป็นเด็กดีและขยัน และได้สัญญากับยายไว้ว่าถ้าเรียนจบหนู จะเลี้ยงและดูแลยายเอง แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์เสียก่อน

ล่าสุด วันนี้ (21 พ.ค.62) เมื่อเวลา 12.30 น .ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นางอรนุช ยินดี อายุ 42 ปี มารดา และ นางสุกฟ้า เซี่ยงว่อง อายุ 72 ปี ยายของคนเจ็บ พร้อมโดยญาติๆ รวมทั้งครูที่วิทยาลัยได้เข้ามาเยี่ยม

จากนั้นยายสุกฟ้า ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว รู้สึกดีใจเล็กน้อยแต่ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าหลานมีอาการดีขึ้น ส่วนผลสแกนสมองก็ไม่มีเลือดคั่งในสมอง นอกจากนี้ยังได้กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนและชาวโซเชียลที่ โอนเงินมาให้พร้อมทั้งส่งกำลังใจช่วยเหลือครอบครัวตนพร้อมอวยพรกัน ให้น้องหายไวๆ รู้สึกขอบคุณมาก 

ทางด้าน พ.ต.อ.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปดูที่เกิดเหตุ และได้ให้ผู้กำกับสอบสวนลงไปดูแลคดีแล้ว คาดว่าจะได้ผลไม่เกิน 7 วันนี้ ขอสืบสวนสอบสวนก่อนเพราะขณะเกิดเหตุทางญาติพี่น้องหรือเจ้าตัวเองก็ไม่ได้มาแจ้งความเลย และถ้าหากรู้ว่าใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะต้องดำเนินการหมด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook