ธนาธรไม่เห็นด้วยมติศาลรัฐธรรมนูญ! รวมเสียงตั้งรัฐบาลต่อ ย้ำไม่ใช่เวลาสิ้นหวัง

ธนาธรไม่เห็นด้วยมติศาลรัฐธรรมนูญ! รวมเสียงตั้งรัฐบาลต่อ ย้ำไม่ใช่เวลาสิ้นหวัง

ธนาธรไม่เห็นด้วยมติศาลรัฐธรรมนูญ! รวมเสียงตั้งรัฐบาลต่อ ย้ำไม่ใช่เวลาสิ้นหวัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงตั้งแต่เวลา 19.00 น. วันนี้ (23 พ.ย.) ว่า ตนไม่เห็นด้วยต่อมติของศาลรัฐธรรมนูญ ที่รับพิจารณาคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้วินิจฉัยสถานะการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของตน เพราะอ้างว่าตนถือหุ้นบริษัทสื่อ ชื่อ วี-ลัค มีเดีย ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับผู้สมัคร ส.ส.

อาสาเป็นนายกฯ เหมือนเดิม

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า พรรคจะเดินหน้ารวมเสียงตั้งรัฐบาลต่อไป และตนจะยังอาสาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะยังถือเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคอนาคตใหม่

"ผมอยากให้เราลองยืนเงียบๆ นิ่งๆ และเงี่ยหูฟัง พวกเราได้ยินเสียงของความคร่ำครวญของผู้คนที่อยู่ข้างนอกหรือเปล่า เราได้ยินเสียงของความไม่พอใจของผู้คนที่อยู่ข้างนอกหรือเปล่า คสช. ในวันนี้ อยู่ในขาลง คสช. และระบอบเผด็จการที่มากับพวกเขา คือ อาทิตย์ที่กำลังอัสดง ไม่ว่าจะเป็นความพยายามสืบทอดอำนาจผ่านการดึง ส.ส. จากพรรคอื่นก็ดี ไม่ว่าจะเป็นความพยายามสืบทอดอำนาจด้วยการสกัดผมไม่ให้เข้าสภาผู้แทนราษฎรก็ดี นี่แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังของเผด็จการ นี่แสดงให้เห็นถึงความพยายาม ความดิ้นรนครั้งสุดท้ายของระบอบรัฐประหาร พวกเขาคือกลุ่มคนที่ต้องการให้วันนี้ ทุกๆ วันของวันนี้ เป็นเมื่อวาน เพื่อที่เขาจะได้เสวยสุขอยู่บนความทุกข์ของประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง พวกเขาคือความมืด พวกเราคือแสงสว่าง พรรคอนาคตใหม่ขออาสาเป็นผู้เปิดประตูสู่วันพรุ่งนี้ เปิดประตูสู่รุ่งอรุณวันใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขออาสาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อหยุดยั้งระบอบ คสช. เพื่อหยุดยั้งระบอบเผด็จการ"

วอนอย่าสิ้นหวัง ร่วมกันสู้เผด็จการต่อ

นายธนาธรยังเรียกร้องไปถึงประชาชนว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะสิ้นหวัง แต่เป็นเวลาที่จะช่วยกันลุกขึ้นสู้กับระบอบเผด็จการ ตน สมาชิกพรรค และ ส.ส. ของพรรค ยังไม่หมดหวัง จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันเปิดโปงความไม่ยุติธรรมของหลายภาคส่วนต่อไป

"ทุกคนอาจจะสิ้นหวัง ทุกคนอาจจะหมดหวังเมื่อได้ยินข่าวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อตอนบ่ายวันนี้ ผมอยากจะเรียนพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่ยังรักประชาธิปไตย ผมอยากจะเรียนผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ทุกคน ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาแห่งการสิ้นหวัง แต่เป็นเวลาที่จะเปิดโปงความชั่วร้ายของระบอบเผด็จการ สิ่งที่เกิดขึ้นคือความอยุติธรรม ผมขอเชิญพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคนที่ยังรักความยุติธรรมอยู่ ยืดหน้าอย่าสง่าผ่าเผย ลุกขึ้นยืนและต่อสู้ร่วมกัน เพื่อทวงคืนความยุติธรรมกลับสู่สังคมไทย ร่วมสร้างสังคมที่เป็นธรรม นั่นคือภารกิจของเรา นั่นคือภารกิจของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รักความถูกต้อง ที่รักความประชาธิปไตย ย้ำอีกครั้งนี่ไม่ใช่เวลาของการสิ้นหวัง แต่เป็นเวลาของการลุกขึ้นยืนร่วมกัน"

ศาลห้ามทำหน้าที่ แต่ยังเป็น ส.ส.

นายธนาธร บอกอีกว่า แม้ศาลจะมีคำสั่งให้ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ตนยังคงเป็น ส.ส. เช่นเดิม และเมื่อมีคำสั่งให้ไม่ให้ตนเข้าสภา ตนก็จะขออยู่ข้างพี่น้องประชาชน และจะทำงานร่วมกับ ส.ส. ของพรรคเช่นเดิม

"ระหว่างนี้ ระหว่างรอการวินิจฉัยของศาล ผมจะยังคงทำงานกับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในเมื่อพวกเขาไม่ให้ผมเข้าสภา ผมก็จะอยู่กับประชาชน ผมก็จะทำงานในฐานะบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน 6,300,000 เสียง ทั่วประเทศ" นายธนาธร กล่าว

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook