สะเทือนใจ โรคพิษสุนัขบ้าคร่าชีวิตเด็กหญิง ช็อกตาตั้ง-ผวากลัวคน

เด็กหญิงวัย 11 ขวบ เสียชีวิตสิ้นใจตายปริศนา แพทย์สันนิษฐานติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า เร่งเก็บตัวอย่างพิสูจน์ ยายบอกหลานเคยมาบอกถูกหมาข่วน เมื่อ 3 เดือนก่อน

(24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ได้ตั้งศพ น้องเอม (นามสมมติ) อายุ 11 ปี เพื่อทำพิธีบำเพ็ญกุศล หลังจากที่เด็กหญิงเสียชีวิตลง โดยคาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุของการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า

ป้าของน้องเอม เปิดเผยว่า น้องเอมอาศัยอยู่กับ นางสำลี อายุ 60 ปี ผู้เป็นยาย เนื่องจากพ่อแม่ได้แยกทางกันไป โดยแม่ไปทำงานอยู่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และน้องเรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.5 น้องเอมเป็นเด็กที่น่ารักและเป็นที่รักใคร่ของทุกๆ คน

แต่เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา น้องเอมเริ่มมีอาการป่วยหนัก แพทย์ได้ทำการตรวจอาการแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น จึงมีการส่งต่อไปยัง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช โดยเด็กมีภาวะอาการตัวสั่น, ปัสสาวะบ่อย ของเสียออกมาเป็นมูกเลือด ซ้ำยังมีอาการกลัวคน และชักเกร็งตลอดเวลา

ทั้งนี้ แพทย์แจ้งว่าได้พิจารณาจากอาการเบื้องต้น คล้ายกับโรคพิษสุนัขบ้า แต่ยังไม่ได้ยืนยันว่าติดเชื้อมาจากสุนัขหรือแมว โดยจะต้องมีการนำเลือด, เชื้อไขสันหลัง, น้ำลายและเส้นผมของเด็กไปตรวจอย่างละเอียดเสียก่อน ซึ่งขณะนี้ผลตรวจก็ยังไม่ออกมา

กระทั่งช่วงเย็นวันเดียวกันนั้นน น้องเอมก็เสียชีวิต ถือว่าเป็นภาวะที่เจอขึ้นเร็วเป็นอย่างมาก โดยก่อนที่น้องจะเสียชีวิตน้องได้บอกยายว่า โดนเจ้าน้ำตาลกัด คือสุนัขใกล้ๆ บ้าน เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นเจ้าน้ำตาลก็ตายไปแล้วเช่นกัน

ป้าของเด็กยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการ เนื่องจากย่านนี้มีสุนัขจรจัดเป็นจำนวนมาก ที่แพร่พันธุ์อยู่ในสวนปาล์มของชาวบ้าน และชาวบ้านเองก็ไม่กล้ากำจัด เนื่องจากมีกฏหมายคุ้มครองอยู่

ขณะที่ในวันเดียวกันนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่จากอนามัยบ้านห้วยยูง อ.พระพรหม มาให้ตรวจสอบและนำญาติของผู้เสียชีวิตไปฉัดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โดยเจ้าหน้าที่บอกว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิตครั้งแรกจากโรคพิษสุนัขบ้าเมื่อปี 2555 หากรายนี้ผลตรวจออกมาว่าเป็นก็จะถือเป็นรายที่ 2 ของจังหวัด และนอกจากเจ้าหน้าที่อนามัยแล้ว มีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงมาเก็บสุนัขจรจัดบริเวณนั้นเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์อาการและฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว