ที่แท้คือแค้นสะสม ตำรวจเรียกสอบ 2 ฝ่ายคลิปตีกันชุลมุนหน้าโรงเรียน

ตำรวจโคราชเรียกตัว 2 คู่กรณีเข้าสอบสวน ปมเหตุคลิปตีกันหน้าโรงเรียนชื่อดัง สารภาพเป็นความแค้นที่สั่งสมกันมานาน กลับมาเผชิญหน้าเจอกันอีกครั้ง

จากกรณีที่มีการแชร์คลิปภาพเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ถนนมิตรภาพ ตัวเมืองนครราชสีมา กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กัน เป็นเหตุชาย 3 คน ไล่ทำร้ายชกต่อยกันเป็นเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย เหตุดังกล่าวสร้างความตื่นตกใจให้กับนักเรียนและผู้ปกครองเป็นอย่างมาก

ร.ต.อ.อภินันท์ สุวรรณอัมพร ร้อยเวร สภ.โพธิ์กลาง อำเภอเมืองนครราชสีมา ระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (24 พ.ค.) โดยทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายคือ นายสมิง อายุ 37 ปี พนักงานรับส่งวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บมีแผลที่หางคิ้วซ้ายและหน้าผาก และ นายประสิทธิ์ อายุ 24 ปี เป็นพนักงานร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บมีแผลที่ศีรษะ แพทย์ต้องเย็บ 9 เข็ม ขณะที่ชายอีกคนคือเพื่อนของนายสมิง ได้หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ

ล่าสุดในวันนี้ (25 พ.ค.) ได้เรียกคู่กรณีที่งสองฝ่ายมาสอบปากคำ นายสมิง ได้ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ทำงานที่เดียวกับ นายประสิทธิ์ ที่บริษัทใน อ.สูงเนิน แต่มีเรื่องบาดหมางแตกคอกัน เพราะอีกฝ่ายพยายามจะจีบน้องสาวภรรยาของตน ตนก็ได้ห้ามเอาไว้ เพราะนายประสิทธิ์เองก็มีภรรยาอยู่แล้ว

กระทั่งต่อมา นายประสิทธิ์ ถูกเชิญให้ออกจากงาน ก่อนจะย้ายเข้ามาทำงานอยู่ในตัวเมือง ซึ่งก็คือร้านค้าใกล้ๆ กับจุดที่เกิดเหตุดังกล่าว ล่าสุดก็ได้ส่งข้อความมาข่มขู่และท้าทาย ทั้งภาพอาวุธปืนและไล่ให้ตนไปซื้อเสื้อเกราะมาใส่ไว้ แต่ที่ถึงขีดสุดจริงๆ ก็คือ นายประสิทธิ์คุยโวว่าเป็นชู้กับภรรยาของตน ทำให้รู้สึกว่าเกินเลยและหยามศักดิ์ศรีกันมากไปแล้ว

ในวันเกิดเหตุ ตนกับเพื่อนก็บังเอิญมาเจอนายประสิทธิ์พอดี ทำให้เกิดมีการเผชิญหน้ากันและทะเลาะวิวาทตามคลิป โดยมีเพียงหมวกกันน็อกใช้เป็นอาวุธและใช้ป้องกันตัว นายเอก เพื่อนที่มาด้วยเห็นตนถูกทำร้าย ก็พยายามจะช่วยเหลือ เพราะเพื่อนไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อน แต่เหตุที่เกิดขึ้นก็ทำให้ต่างฝ่ายต่างเจ็บตัวกันไป

ทั้งนี้ นายสมิง ยังกล่าวว่า สำหรับตนเองก็อยากให้เรื่องนี้จบกันไป แต่คู่กรณีจะยอมจบด้วยหรือไม่ คงจะต้องมีการนัดเจรจากันอีกครั้ง

ทางด้าน นายประสิทธิ์ ที่ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ได้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ โดยยอมรับว่าเคยมีเรื่องบาดหมางกับนายสมิงมากก่อน ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่ที่เดียวกัน แต่ประเด็นอื่นๆ ยังไม่ให้พูดอะไร คาดว่าจะดำเนินคดีเอาความให้ถึงที่สุด

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนัดทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีต่อไป