เผยประวัติ ชวน หลีกภัย หลังสร้างประวัติศาสตร์ นายกฯ 2 สมัย-ประธานสภาฯ 2 สมัย เป็นคนแรก

เผยประวัติ ชวน หลีกภัย หลังสร้างประวัติศาสตร์ นายกฯ 2 สมัย-ประธานสภาฯ 2 สมัย เป็นคนแรก

เผยประวัติ ชวน หลีกภัย หลังสร้างประวัติศาสตร์ นายกฯ 2 สมัย-ประธานสภาฯ 2 สมัย เป็นคนแรก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากผลการลงมติเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ปรากฏว่านายชวน หลีกภัย ได้รับเลือกด้วยเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. ด้วยคะแนนเสียง 258 เสียง เอาชนะนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่ได้รับเสียงสนับสนุน 235 เสียง

>> ด่วน! ชวน หลีกภัย เฉือน สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นั่งประธานสภาฯ สมัย 2 ในวัยย่าง 81

ส่งผลให้นายหัวชวน นักการเมืองรุ่นลายครามแห่งพรรคประชาธิปัตย์สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการการเมืองไทย เมื่อเป็นนักการเมืองคนแรกของประเทศไทยที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารและประมุขฝ่ายนิติบัญญัติถึงตำแหน่งละ 2 สมัย ดังนี้

- นายกฯ สมัยแรก 23 ก.ย. 35 – 12 ก.ค. 38

- นายกฯ สมัยสอง 9 พ.ย. 40 – 9 ก.พ. 44

- ประธานสภาฯ สมัยแรก 4 ส.ค. 29 – 29 เม.ย. 31

- ประธานสภาฯ สมัยสอง —

อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 20 ของเมืองไทย เป็นนักการเมืองที่ได้รับการยอมรับนับถือให้เป็นบุคคลต้นแบบในแง่ความซื่อสัตย์สุจริตและการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย โดยในวัย 80 ปี จะครบ 81 ปีในวันที่ 28 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ชวน หลีกภัย เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มาแล้ว 16 สมัย อยู่ในสภาอันทรงเกียรติมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ปี นอกจากจะเคยนั่งบัลลังก์เป็นประธานสภาฯ มาแล้วครั้งหนึ่ง ยังเคยเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ มาแล้ว 3 สมัย

ในฝ่ายบริหาร นอกจากจะเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมา 2 สมัย ยังเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งว่าการและช่วยว่าการรวมแล้ว 7 กระทรวง ได้แก่ ยุติธรรม พาณิชย์ เกษตรและสหกรณ์ ศึกษาธิการ สาธารณสุข สำนักนายกรัฐมนตรี และกลาโหม พ่วงท้ายด้วยการเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 5 แต่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดถึง 12 ปี

จะเห็นได้ว่าแค่ไล่เรียงประวัติอย่างย่อๆ ยังยาวเป็นหางว่าวขนาดนี้ คงไม่ต้องสงสัยเรื่องความเชื่อมั่นศรัทธาที่บุคคลในแวดวงการเมืองจะมอบให้ ชนิดที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าที่พรรคพลังประชารัฐยอมยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้เป็นของคนจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลคนนั้นต้องชื่อ ชวน หลีกภัย ขณะที่มีกระแสข่าวเพิ่มเติมด้วยว่าในวุฒิสภาก็ยอมรับและยินดีที่จะได้เห็นนายหัวชวนนั่งในตำแหน่งประธานรัฐสภา

คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของนักการเมืองผู้คร่ำหวอดในวงการเมืองจากเมืองตรังคือ ฝีปากการอภิปรายอันคมกริบ หรือที่สื่อมวลชนเคยให้คำนิยามว่า ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง คือภายใต้การพูดจาที่สุภาพนิ่มนวล แต่ในบางครั้งกลับมีถ้อยคำที่เชือดเฉือนคนฟังชนิดกระอักเลือดได้เลย

วาทะของนายชวนที่เรียกเสียงลือลั่นสนั่นไปทั่วปฐพี หากจะให้ยกมา ณ ที่นี้คงจะยาวเกิน แต่ Sanook! News ขอหยิบมาหนึ่งวลีที่ยังคงอยู่ในหัวเมื่อนึกถึงนายชวนนั่นคือ เมื่อครั้งที่นายทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แล้วเดินหน้าทำตามนโยบายต่างๆ อย่างชนิดไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ไม่ฟังฟังเสียงคำท้วงติงไม่ว่าจะจากใครก็ตาม ครั้นสบโอกาสที่นักข่าวถามถึงประเด็นดังกล่าว นายชวนกล่าวเพียงสั้นๆ แต่ลึกซึ่งในความหมายว่า "เป็นห่วงว่าหากท่านทำอย่างนี้... ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่"

ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจนถึงวันนี้ เราต่างได้เห็นกันถึงสิ่งที่เกิดกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ไม่ผิดไปจากที่อดีตนายกฯ ชวนกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านั้นหลายปีอยู่พอสมควรเลย

อย่างไรก็ตาม คงต้องเอาใจช่วยนายชวน หลีกภัย กับภารกิจหวนคืนบัลลังก์สภาในสมัยที่ 2 นี้ เพราะเต็มไปด้วยความท้าทายมากมายให้ต้องนำพาฝ่ายนิติบัญญัติในสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้สูงมากที่เราจะได้เห็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เกมชิงไหวชิงพริบในสภา ไปจนถึงการประคับประคองเรือลำที่มีชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อกับภาวะทางสองแพร่ง ซึ่งหลังจากประชุมสภานัดแรกในวันนี้ไปแล้ว คงเลือกที่จะร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง และแน่นอนว่าเป็นความเสี่ยงที่พรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดในบ้านเราจะถูกตั้งคำถามถึงจุดยืน แนวคิด และอุดมการณ์ของพรรคอย่างแหลมคมไปตลอด

เป็นงานที่หนัก ยาก และโหดหินสำหรับชายร่างเล็กในวัยเกือบ 81 ที่เชื่อว่าหลายคนศรัทธาจนถึงขั้นขนามนามให้ว่าเป็น "เสาหลักต้นหนึ่งแห่งระบอบประชาธิปไตย"

>> ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ คนใหม่ ทรัพย์สินเยอะแค่ไหนก่อนรับตำแหน่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook