ตำรวจโคราชรีบแก้ข่าว เหตุคนเมาคว้า "กรรไกรหมอ" แทงคู่อริกลางห้องฉุกเฉิน ไม่ใช่เรื่องจริง

จากกระแสข่าวคนร้าย 2 คน อายุประมาณ 30-40 ปี บุกเข้าไปในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา และหนึ่งในคนร้ายได้คว้ากรรไกรเครื่องมือแพทย์วิ่งไล่แทง นายศักดิ์ อายุ 35 ปี ที่แพทย์พยาบาลกำลังให้การช่วยเหลืออาการบาดเจ็บอยู่ในห้องฉุกเฉิน สร้างความตื่นตกใจแก่แพทย์ พยาบาล และผู้ป่วย วิ่งหนีกันอลหม่านมา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562เวลาประมาณ 19.50 น. ตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

พ.ต.ท.พิชัย เชิดชู รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.โพธิ์กลาง อำเภอเมืองนครราชสีมาเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธมีดภายในหมู่บ้านโคกเพชร ตำบลโคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา จึงรีบรุดไปตรวจที่เกิดเหตุและตามไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลเทพรัตน์ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเพียง 500 เมตร และจากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายศักดิ์ ได้มีปากเสียงและทะเลาะวิวาทกับนายประวี อายุ 32 ปี ขณะนั่งดื่มสุราด้วยกันจากนั้นนายศักดิ์ได้ชกต่อยกับนายประวี จนนายประวีได้รับบาดเจ็บ

ขณะเดียวกันนายมงคล อายุ 38 ปี ที่นั่งดื่มสุราด้วยกันได้เข้ามาช่วยห้ามจนเกิดการชกต่อยกันชุลมุนนายมงคลจึงใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ลำคอ และท้ายทอยนายศักดิ์ จนบาดเจ็บเลือดอาบท่วมตัว เหตุเกิด ในช่วงหัวค่ำวันที่ 24 พ.ค.2562 ก่อนที่พลเมืองดีพานายศักดิ์ และนายประวี ส่งรักษาตัวโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร และต่างฝ่ายก็ต่างไปรักษาตัว และมีญาติของทั้ง 2 ฝ่ายตามมาเยี่ยมผู้ป่วย

ต่อมานายมงคล อายุ 38 ปี ที่ใช้มีดแทงนายศักดิ์ จึงได้มีปากเสียงกับนายศักดิ์และญาติของนายศักดิ์ภายในโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ญาติๆ และ รปภ.ก็ได้ห้ามปรามไว้ และขณะเดียวกันตำรวจตามไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่ รพ.จึงได้ควบคุมตัวนายมงคล ผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ สภ.โพธิ์กลาง ส่วนนายศักดิ์และนายประวีที่ได้รับบาดเจ็บยังคงพักรักษาตัวที่ รพ.เทพรัตน์ โดยไม่มีได้มีเหตุการณ์เอากรรไกรเครื่องมือแพทย์ไปรุมทำร้ายนายศักดิ์ ซ้ำอีกรอบในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ซึ่งข่าวที่ปรากฏทางสื่อมวลชนส่งผลให้ผู้บังคับบัญชาโดยเฉพาะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้โทรศัพท์มาสอบถามเหตุการณ์ด้วยตนเอง ซึ่งทาง สภ.โพธิ์กลาง ก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับแล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ด้านนายนพพล น้องชายนายมงคลฯผู้ต้องหาได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าหลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันตนเองได้ตามไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และรับทราบข้อมูลจากญาติว่าพี่ชายของตนคือนายมงคล ได้ใช้อาวุธมีดทำร้ายนายศักดิ์จริง แต่เป็นการป้องกันตัวเพราะนายมงคล เข้าไปห้ามนายศักดิ์ ไม่ให้ทำร้ายนายประวีฯที่นั่งดื่มสุราด้วยกัน แต่นายศักดิ์ไม่ฟังจึงเกิดการชกต่อยกันและมีการทำร้ายกันดังกล่าว ส่วนข่าวที่ระบุว่าพี่ชายของตนหยิบเอากรรไกรของแพทย์ในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแล้ววิ่งไล่แทงนายศักดิ์นั้นตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่เท่าที่ฟังจากปากญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น แค่มีปากเสียงกันอีกรอบเพราะความที่เมาสุราทั้งสองฝ่ายนายนพพลฯกล่าว