ธนาธรจวก กกต. ช่วย ส.ส.เอื้ออาทร ทำสภาป่วน พร้อมขอบคุณชาวเชียงใหม่ เขต 8

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้ (27 พ.ค.) ว่า การเลือกตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นแล้วว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ใช้วิธีคิดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ ด้วยการให้พรรคเล็กที่มีคะแนนไม่ถึง 71,000 คะแนน มีที่นั่งในสภา เป็นสาเหตุของความวุ่นวายในสภาผู้แทนราษฎร

"ทุกท่านครับ ผมเรียนว่ากฎกติกาการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ และการตัดสินใจของ กกต. มีผลและส่งผลกระทบกับทิศทางการเดินทางของประเทศ มีผลกระทบกับอนาคตของประเทศ ทำไมครับ? ทุกท่านเห็นแล้วครับ จะเกิดอะไรขึ้นถ้า กกต. ใช้สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์แบบที่นักวิชาการ แบบสื่อมวลชนส่วนใหญ่ในประเทศเขาใช้กัน ผลการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรในวาระประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 และรองประธานสภาฯ คนที่ 2 จะไม่เป็นแบบนี้" นายธนาธร กล่าว

ไม่ใช่แค่นั้น นายธนาธรกล่าวต่อไปว่า การใช้สูตรคิดปาร์ตี้ลิสต์แบบเอื้อพรรคเล็กของ กกต. ยังส่งผลกระทบต่อการตั้งรัฐบาลด้วย เพราะทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยเหลือเสียงในสภา 245 เสียง จากที่เคยคาดกันไว้ว่าเสียงจะเกินกึ่งหนึ่ง

ขอบคุณชาวเชียงใหม่ เขต 8 จี้รับรอง "ศรีนวล" โดยเร็ว 

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พูดถึงการเลือกตั้งซ่อมที่เขต 8 จ.เชียงใหม่ หรือที่ อ.จอมทอง อ.ดอยหล่อ อ.แม่วาง และ อ.สันป่าตอง เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ว่าตนรู้สึกขอบคุณประชาชนทุกคนที่มาลงคะแนนเสียง และทำให้ นางสาวศรีนวล บุญลือ เป็นผู้ชนะ

ดังนั้นเพื่อให้นางสาวศรีนวล ทำงานได้โดยเร็ว นายธนาธรจึงเรียกร้องให้ กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง และรับรองให้นางสาวศรีนวลเป็น ส.ส. โดยเร็วที่สุดเช่นกัน

นายธนาธร กล่าวอีกว่า คะแนนของนางศรีนวลที่ได้รับจากการอยู่ที่ 75,819 คะแนน สูงที่สุดของประเทศ ทำลายสถิติของนายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส. จ.แพร่ ของพรรคอนาคตใหม่เหมือนกัน ที่ได้ 72,016 คะแนน

วอน "ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย" ทำอย่างที่หาเสียง

นอกจากนี้ นายธนาธร ยังเรียกร้องไปถึงพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยว่า ขอให้ทำตามสิ่งที่เคยสัญญาไว้กับประชาชน และขณะนี้พรรคอนาคตใหม่ยังเปิดประตูเจรจากับพรรคการเมืองทั้ง 2 พรรคนี้ให้มาเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน แต่สุดท้ายแล้วหาก 2 พรรคนี้จะเลือกทางไหน พรรคอนาคตใหม่คงไม่ไปก้าวก่ายการตัดสินใจของทั้ง 2 พรรค