ชายชุดสีกากี อ้างเป็น "ปลัด" ยืนด่ากราดใส่กู้ภัยกำลังช่วยคนเจ็บ

ชายใส่ชุดข้าราชการ ยืนด่ากราดใส่เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กำลังช่วยเหลือคนเจ็บกลางถนน โซเชียลคอมเมนต์ถล่มเละ ล่าสุดโดนสั่งสอบสวนทางวินัย ทางหน่วยงานออกโรงขอโทษแทน

ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์และระบุข้อความว่า มีชายคนหนึ่งใส่ชุดข้าราชการ และอ้างตัวว่ามีตำแหน่งเป็นปลัด เข้ามาต่อว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือคนเจ็บจากอุบัติเหตุรถชน โดยด่าทอว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจอดรถเกะกะขวางถนน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้พยายามอธิบาย แต่ชายที่แต่งชุดข้าราชการไม่ยอมฟังใดๆ ทั้งสิ้น

โดยข้อความในเฟซบุ๊ก ยังบอกอีกว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเย็นวานนี้ (27 พ.ค.) หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานเข้าช่วยเหลือเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน ที่แยกร่วมเริงชัย เมืองนครราชสีมา เป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน

แต่ระหว่างที่กำลังดูแลและเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บออกจากจุดเกิดเหตุอยู่ ปรากฏว่ามีชายใส่ชุดสีกากีคล้ายกับชุดข้าราชการ อ้างตัวว่าเป็นปลัด ออกมายืนชี้หน้าด่าอาสาสมัครกู้ภัยไปต่างๆ นานา โดยถนนเส้นนี้มี 4 ช่องทาง เจ้าหน้าที่ยืนโบกรถให้ผ่านไปได้ แต่กลับโดนตำหนิด้วยคำหยาบในบางช่วง

ทั้งนี้ หลังจากมีการโพสต์เรื่องดังกล่าวพร้อมกับคลิปเหตุการณ์ออกไป ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากจากโลกออนไลน์ โดยส่วนใหญ่ระบุว่าชายที่แต่งชุดข้าราชการประพฤติตัวไม่เหมาะสม เพราะเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็อธิบายและกำลังช่วยผู้บาดเจ็บอยู่ และบางส่วนระบุว่าชายคนดังกล่าวน่าจะเมาสุรา

ขณะที่ นายพุฑฒินันท์ อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา ได้เปิดเผยว่า อยากให้ผู้ชายคนดังกล่าวออกมาขอโทษ เพราะไม่รู้ว่าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ทำงานเพื่อสังคมอยู่ และยืนยันว่าการทำงานไม่ได้กีดขวางเส้นทางแต่อย่างใด

ล่าสุด ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้เปิดเผยว่า ชายที่แอบอ้างตัวเป็นปลัดนั้น ทราบว่าเป็นข้าราชการสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ตำแหน่งเจ้าหน้าที่นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ แต่ได้ขับรถแท็กซี่รับจ้างเป็นอาชีพเสริม หลังจากเลิกงานแล้ว

ทั้งนี้ทางหน่วยงานได้ฝากขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กำลังช่วยเหลือคนเจ็บอยู่ ในพฤติกรรมของข้าราชการในสังกัดที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม ทั้งนี้เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบวินัยข้าราชการคนดังกล่าวแล้ว ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลภายใน 10 วันนับจากวันนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งยังบอกว่า ในวันนี้ (28 พ.ค.) ข้าราชการคนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาทำงาน โดยได้ขอแจ้งลาป่วยเอาไว้แล้ว ปกติข้าราชการผู้นี้ไม่ได้ดื่มสุรา แต่มีนิสัยพูดจาโผงผาง และอารมณ์ร้อนเป็นครั้งคราว