โจรลักลอบตัดไม้พะยูงล้มทับสายไฟ-บ้านพังเสียหาย โชคดีฝนตกไฟจึงไม่ลุกลาม

วันที่ 28 พ.ค. 62 เมื่อเวลา 02.00 น. นายบุญเสริม พวงเพชร รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงบึงกาฬ ได้รับแจ้งจากนายสุพจน์ สุราราช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านใหม่ชัยพรว่ามีคนร้ายลักลอบตัดต้นไม้พะยูงข้างถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-บุ่งคล้า เขตหมู่บ้านชัยพร ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.หนองคาย ล้มทับสายไฟแรงสูงขาดพร้อมกับทรัพย์สินชาวบ้านพังเสียหาย

จึงได้รายงานให้กับ นายไชยวิทย์ บูรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงบึงกาฬทราบ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.หนิม พลชม สว (สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ และนายสุรัตน์ วิเศษลา ผอ.ศูนย์ป่าไม้จังหวัดบึงกาฬและหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่บก.1 บึงกาฬ

ที่เกิดเหตุพบต้นพะยูงขนาด 2 คนโอบสูงประมาณ 25 เมตร ที่ปลูกเอาไว้อยู่ริมทางหลวง หน้าร้านอาหาร หนองคายตรงข้ามตลาดสดบ้านชัยพร ถูกคนร้ายใช้เลื่อยโซ่ยนต์ตัดโค่นทั้งๆ ที่มีผ้าเหลืองมัดรอบต้นซึ่งผ่านพิธีการบวชต้นไม้มาแล้วเมื่อปีกลายผ่านมา ได้ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูงขาด

และส่วนปลายยังได้หักทับร้านขายของชำชื่อ “ร้านซูเปอร์ถูก” ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าธงฟ้าประชารัฐได้รับความเสียหาย 1 หลัง สายไฟฟ้าแรงสูงที่ขาดลงมาทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้ร้านเสียหายเล็กน้อย เนื่องจากเจ้าของร้านตื่นมาดับได้ทัน ขณะเดียวกันแก๊งค้าไม้พะยูงก็ไม่สามารถติดท่อนไม้ที่โค่นลงไปขายได้

เจ้าของร้านขายของชำไม่ประสงค์ออกนามเพื่อความปลอดภัยที่เกือบจะถูกไฟไหม้บ้านเล่าว่า ขณะที่ตนกำลังนอนหลับมีพายุลมฝนฟ้าร้องคำรามได้ยินเสียงนึกว่าฟ้าผ่าบ้าน ไฟฟ้าก็ดับ

มองเห็นหน้าบ้านถูกต้นไม้ล้มทับพัง สายไฟฟ้าแรงสูงที่ขาดตกลงมาเกิดประกายไฟทำให้ไฟลุกไหม้ตนจึงนำน้ำไปฉีดดับ โชคดีมีฝนตกลงมาด้วยจึงช่วยไม่ให้ไฟลุกลาม ทำให้คนร้ายที่มากันประมาณ 4-5 คนได้ขึ้นรถยนต์หลบหนีไปด้วยความตกใจที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

นายบุญเสริม รอง ผอ.แขวงทางหลวงกล่าวว่า แก๊งค้าไม้พะยูงไม่เกรงกลัวต่อความผิดลักลอบตัดจนหมด คงเหลือ 2 ต้นสุดท้ายนี้ที่อยู่ใกล้คนและอยู่ที่โล่งแจ้ง แม้จะผ่านพิธีบวชต้นไม้มาแล้วมีผ้าเหลืองห่มรอบต้นก็ยังไม่เว้น คนร้ายบากหน้าไม้หวังจะให้โค่นขนาดไปกับเส้นทางหลวง คาดว่าขณะนั้นคงเกิดลมพายุพอดีทำให้ทิศทางการหักโค่นเปลี่ยนทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบโฟโต้สวิตช์มีไฟจากแบตเตอรี่ส่องสว่างอยู่ คาดว่าคนร้ายวางแผนหลอกเอาไฟไปส่องให้อุปกรณ์มันเข้าใจว่าพระอาทิตย์ขึ้นแล้วหรือเป็นกลางวันโคมไฟส่องสว่างก็จะดับเอง เพื่อป้องกันกล้องวงจรปิดจับภาพได้ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับไม้พะยูงของกลางจำนวน 9 ท่อนปริมาตร 1.994 ลูกบาศก์เมตรส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป